project เด็กและเยาวชน

ค่ายสร้างเมล็ดพันธุ์ คนรักษ์สิ่งแวดล้อม

การปลูกป่าทำแล้วก็จบไป แต่ค่ายที่สร้าง"คน"ให้รักสิ่งแวดล้อม รักษาระบบนิเวศน์ มันคือเมล็ดพันธุ์ที่ยั่งยืน 

ระยะเวลาโครงการ 4 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ สระบุรี

ยอดบริจาคขณะนี้

7,301 บาท

เป้าหมาย

22,000 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 33%
จำนวนผู้บริจาค 9

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

กิจกรรมค่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม

22 มิถุนายน 2015
หลังจากได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเทใจดอทคอม และการระดมทุนผ่าน Street Performance ทำให้เรามีงบประมาณเพียงพอที่จะทำค่ายสร้างเมล็ดพันธุ์ คนรักษ์สิ่งแวดล้อมจนสำเร็จ ทีมงานเครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ใช้ช่วงเวลา 1 เดือนสุดท้ายในการจัดเตรียมกิจกรรม อุปกรณ์และคัดเลือกน้องๆ จากโรงเรียน ชั้น ม.4- ม.6 ที่มีความสนใจในด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่การศึกษาเขต 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน  50 คน จากผู้สมัครกว่า 200 คน ด้วยการคัดเลือกคำตอบเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ 
 
 
ค่ายนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2558 ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี ในค่ายเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ด้วยกิจกรรมที่อัดแน่นตลอด 3 วัน ท่ามกลางอากาศแจ่มใสและธรรมชาติที่ยังสวยสมบูรณ์สุดๆ ในวันแรก เราเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการละลายพฤติกรรมผ่านกิจกรรมนันทนาการและการวางกฎค่ายในการอยู่ร่วมกัน ก่อนจะแบ่งน้องๆ เข้ากลุ่ม 5 กลุ่ม  กิจกรรม Walk rally เป็นกิจกรรมแรก โดยน้องๆ จะต้องกระจายตัวกันไปตามด่านต่างๆ ซึ่งกิจกรรมในแต่ละด่านเน้นความสนุกสนานและสอนน้องๆ เกี่ยวกับสิ่งง่ายๆ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การคัดแยกขยะ การสูญเสียระหว่างการขนส่ง การทำลายหน้าดิน เป็นต้น แต่ละทีมจะต้องสลับหมุนเวียนกันไปในทุกๆ ด่าน หลังจากเหนื่อยและเลอะเทอะกับการวิ่งตะลุยด่าน
 
กิจกรรมนันทนาการสนุกสนานเพื่อละลายพฤติกรรม
 
กิจกรรม Walkrally
 
กิจกรรมในช่วงเย็นเป็นกิจกรรมวิกฤตการณ์และความคิดสร้างสรรค์ น้องๆ จะได้รับ ภาพสื่อ”ปัญหา”และ”ทางแก้” โดยแต่ละทีม จะต้องลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง เพื่อหาทางแก้เจ๋งๆ ให้กับแต่ละปัญหา งานนี้เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะเราอยากให้น้องๆ ปลดตัวเองจากกรอบความคิดเดิมๆ ทางแก้แบบเดิมๆ ก่อนที่จะให้น้องๆ ได้ระดมสมองหาทางแก้โจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมของเราในวันรุ่งขึ้น 
 
กิจกรรมวิกฤตการณ์และความคิดสร้างสรรค์
 
ก่อนจะจบด้วยกิจกรรมถอดหัวโขน ซึ่งเป็นกิจกรรมการเปิดใจและพูดคุยกระชับมิตร หัวค่ำวันนั้นเราพาน้องๆ เดินกลับที่พักและพวกเราก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับฝูงหิ่งห้อยที่เปล่งแสงสวยงามเป็นพุ่มตลอดทางเดิน สร้างความตื่นเต้น ประทับใจให้กับเด็กเมืองที่ไม่ค่อยมีโอกาสจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน
 
วันที่ 2 เราเริ่มกิจกรรมออกกำลังกายในตอนเช้าในหมอกเย็นๆ ในวันนี้กิจกรรมเกมส์เศรษฐี เป็นกิจกรรมใหม่ตามกระแสนิยม โดยน้องๆ แต่ละทีมจะต้องพยายามเอาตัวรอดและป้องกันเมืองจากภัยพิบัติให้ได้เพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ หลังจากคึกครื้นกับกิจกรรมเกมส์เศรษฐี เราได้จัดกิจกรรมธรรมชาติและสมาธิ คือ กิจกรรมต้นไม้เพื่อนรัก เน้นให้น้องค่ายได้สัมผัสและซึมซับธรรมชาติ พิจารณาถึงความเป็นไปของสิ่งต่างๆ รอบตัวที่น้องๆ อาจจะไม่เคยได้คิดถึงมาก่อน น้องๆ ได้แบ่งปันและแชร์เรื่องราวที่ต้นไม้ที่ได้ถ่ายทอดให้เขาฟัง มีทั้งเรื่องราวที่สนุกสนานและเรื่องราวที่ซึ้งๆ ที่น่าสนใจ กิจกรรมถัดไป เป็นกิจกรรม
 
กิจกรรมต้นไม้เพื่อนรัก
 
การสร้างป่าในจินตนาการ กิจกรรมนี้เราจะให้น้องได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบป่าที่ตนอยากให้เป็น หรือ คิดว่าควรจะเป็น จากวัสดุเหลือใช้รอบตัวหรือที่หาได้จากบริเวณใกล้เคียงโดยรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด แต่ละทีมทำออกมาได้ดีมากจนน่าประทับใจ กิจกรรมสุดท้ายของเย็นวันนั้น คือ กิจกรรมผู้พิพากษา เป็นกิจกรรมการโต้วาทีแทนธรรมชาติที่มนุษย์เอารัดเอาเปรียบมาอย่างยาวนาน เราได้เห็นนักอนุรักษ์ที่มีไอเดียและพูดจาฉะฉานรุ่นใหม่หลายๆ คนในกิจกรรมนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆ อีกกิจกรรมนึง วันที่ 2 จบลงด้วยกิจกรรมบายศรี เพื่อต้อนรับน้องเล็กคนใหม่ของเครือข่ายฯ อย่างเป็นทางการ 
 
กิจกรรมสร้างป่าในจินตนาการ
 
วันที่ 3 วันสุดท้ายของค่าย เราเริ่มต้นด้วยกิจกรรมการสำรวจเส้นทางธรรมชาติ ท่านวิทยากรจากอุทยานเขาสามหลั่นได้กรุณานำทางน้องๆ เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นเป็นที่สนุกสนาน นอกจากนี้ ท่านวิทยากรยังได้เล่าถึงประสบการณ์ของท่านตอนสู้ ไล่ล่ากับพวกคนขโมยต้นไม้ประยูงตื่นเต้นและปลุกใจสุดๆ ถัดมา เราเรียกรวมน้องๆ เพื่อทำกิจกรรมการระดมความคิดแก้โจทย์ “ถังขยะที่ไม่ต้องใช้มือจับ” เพื่อออกแบบถังขยะแบบใหม่ที่แก้ปัญหาคนไม่ยอมทิ้งขยะลงถัง น้องๆ ได้แชร์ไอเดียน่าสนใจมากมายที่เราคิดว่าสามารถเอาไปทำได้ต่อไป 
 
วิทยากรกำลังบอกเล่าประสบการณ์การต่อสู้กับพวกลอบตัดต้นไม้ประยูง
 
วิทยากร นำน้องๆ เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น 
 
ระดมไอเดีย ออกแบบถังขยะรุ่นใหม่ ไม่ต้องใช้มือจับ
 
ในช่วงเช้าของวันนี้เราวางกิจกรรมหลวมๆ เพื่อให้น้องได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความประทับใจและเขียนสมุดข่อยไว้เป็นที่ระลึกให้กันและกัน ก่อนจะประกาศผลทีมที่ได้คะแนนสูงที่สุดและผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในสาขาต่างๆ กิจกรรมสุดท้ายก่อนจากกัน คือ “กิจกรรมรักจัง” เราเชิญน้องๆ ทุกคนมารวมทำปฏิสัญญารอบต้นไม้ประยูงต้นใหญ่ว่าเราจะรักและร่วมกันดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสุดความสามารถของเรา ก่อนจะปิดค่ายและมอบประกาศนียบัตรให้แก่น้องๆ ทุกคน
 
ค่ายปิดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่น้องๆ ค่ายและเครือข่ายฯ เรายังคงนัดพบปะ ประชุมกันเป็นอย่างต่อเนื่องๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และรวมกันวางแผนเพื่อเตรียมรับน้องรุ่นใหม่ในค่ายที่ 13 ต่อไป
 
เรามาฟังเสียงบางส่วนจากน้องๆ ที่ได้เข้าร่วมค่าย
 
ชนากานต์ โชติพนิตพงศ์  (อาย) โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม
"Ecamp เป็นค่ายแรกของหนูและก็เป็นค่ายที่หนูประทับใจมาก หนูไปแบบไม่รู้จักใครเลย ตอนแรกๆก็รู้สึกว่าเหงาๆเหมือนกัน แต่พอได้ทำกิจกรรมได้รู้จึกพี่ๆเพื่อนๆในค่าย ก็รู้สึกมีความสุขมาก ทุกๆกิจกรรมในค่ายสนุกสนานและก็สื่อความหมายได้ดีมาก ค่ายนี้ทำให้หนูมีมุมมองใหม่ๆ ทำให้หนูเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าอยากดูแลและปกป้องธรรมชาติให้อยู่กับเราไปนานๆ"
 
 
ทิภา ฉายดวงฤดีพร (สตางค์) 
"กิจกรรมในค่าย เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน มาก แต่ก็สอดแทรกข้อคิด เปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัว ทำให้เราได้เห็นถึงผลกระทบว่าหากเราละเลยสิ่งง่ายๆ เช่น เปิดไฟทิ้งไว้ เปิดน้ำทิ้งไว้  ก็อาจจะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองพลังงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างออกไปได้อีกมาก"
"กิจกรรมที่พี่ๆ ให้พวกหนูทำ ทำให้พวกเรามองเห็นว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การที่จะทำให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ ไม่ได้มีแค่ การปลูกต้นไม้ มันเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันของเรา เช่น กิจกรรมสร้างป่าในจินตนาการ หนูได้เรียนรู้ว่าแค่การหยิบย้ายเศษใบไม้หรือกิ่งไม้เล็กๆ ที่เราไม่ได้มองเห็นว่าความสำคัญก็อาจเปลี่ยนสมดุลของพื้นที่ตรงนั้นไป มันทำให้หนูตระหนักถึงสิ่งรอบตัวมากๆ  จากการที่หนูได้ไปเข้าค่ายมา หนูได้ไปเข้าร่วมโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนค่ะ  เราก็เริ่มจากการมองสำรวจว่าสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนของเรามีอะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้บ้าง ตรงไหนที่น่าแก้ไข"
"สิ่งที่ได้รับจริงๆ จากค่าย E-Camp มันแตกต่างไปจากที่หนูนึกไว้ตอนแรกเลยค่ะ ค่ายนี้ไม่ใช่ค่ายที่พาไปปลูกป่า อนุรักษ์ป่า สร้างฝาย แต่ค่ายนี้ได้เน้นไปที่การให้ความรู้  จิตสำนึกและความรู้สึกจริงๆ ว่าเราควรดูแลธรรมชาติด้วยตัวเราเอง  แค่เราเริ่มลงมือทำ สตางค์เชื่อว่าความรักธรรมชาติมันเกิดขึ้นมาจริงๆ ในตัวของพวกเรา E-Camp ทุกคน  เรารู้สึกว่าค่ายนี้มันไม่ได้จบแค่ 3 วันนี้ แต่เราจะยังคงเป็นสมาชิก”บ้านสีเขียว” บ้านของเรา E-Camp ทุกคน"
 
เครือข่ายฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน เปิดโอกาสให้เราได้ช่วยสังคมสร้างนักอนุรักษ์และปลูกฝังความรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่น้องคนรุ่นใหม่ 
 
เครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
 
อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

"เราไม่เน้นที่จะทำค่ายปลูกป่า เพราะปลูกป่าเสร็จก็จบเท่านั้น ถามว่ามันอาจจะเห็นผลทันตาว่ามีต้นไม้ แต่จากการทำงานกว่า 11 ปี การปลูกป่าแต่ไม่ได้สอนให้คนเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ มันไม่ได้ตอบโจทย์เรา" นั่นคือคำกล่าวของนายไพสิฐ สายทอง ประธานเครือข่ายฯ

ไพสิฐ บอกว่า เราเน้นการทำค่ายเพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อสุดท้ายพวกเขาจะเป็น Dream Team ในการรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตัวเอง โดยค่ายนี้เราจึงรับน้องๆ จากทั่วประเทศ  เพราะเราต้องการสร้างเมล็ดพันธุ์ให้งอกเงยในพื้นที่ต่าง ๆ น้อง ๆที่มาเข้าร่วมกิจกรรมจะสามารถไปตั้งกลุ่ม ชมรมในชุมชน โรงเรียนของตัวเองได้

กิจกรรมในค่าย เราจะสอนน้องถึงระบบนิเวศน์ของป่าว่าเป็นอย่างไร ถ้าระบบใดถูกทำลายไปจะส่งผลกระทบต่ออะไรบ้าง หรือ กิจกรรม "นกฉกรรจ์ " ที่จะให้น้องแบ่งออกเป็นสองทีม คือ ครอบครัวนกและผู้ล่า พ่อแม่จะต้องผลัดกันออกไปหาอาหารและปกป้องรังของตัวเอง ไม่ให้ถูกผู้ล่าโจมตี จนกว่าลูกนกจะเติบโตเป็นนกฉกรรจ์และอยู่รอดได้ กิจกรรมดังกล่าวจะสร้างความตระหนักถึงความยากลำบากในการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ  เป็นต้น หรือกิจกรรมป่าในจิตนาการ ที่จะให้น้องได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบป่าที่ตนอยากให้เป็น หรือ คิดว่าควรจะเป็น จากวัสดุเหลือใช้รอบตัวหรือที่หาได้จากบริเวณใกล้เคียง กิจกรรมนี้อาจถูกผนวกเข้ากับกิจกรรมสืบ (สืบ นาคะสเถียร) เพื่อให้น้องๆ ได้เข้าใจจิตใจของนักอนุรักษ์รุ่นเก่าๆ

 

สำหรับเครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมได้จัดขึ้นค่ายแบบนี้เป็นปีที่ 12  โดยจะเปิดรับนักอนุรักษ์รุ่นใหม่จำนวน 50 คน ในระดับชั้น ม.4- ม.6 เข้าร่วมกับเครือข่ายฯ เพื่อระดมสมองหาแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์ และสามารถพัฒนาต่อยอดเป็น “โครงการเยียวยาและฟื้นฟู”ในพื้นที่ของตัวเอง เรามุ่งหวังให้เด็กๆ เกิดทัศนคติที่ดีต่อการเป็นนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ และสืบสานเจตนารมณ์ของเครือข่ายต่อไป

 

การทำงานกว่า 12 ปีของเรา  ทำให้น้องค่ายในวันนั้น กลับมาเป็นพี่ค่ายในวันนี้ เราเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์น้อยๆ จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้พิทักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อมต่อไป

ประโยชน์ของโครงการ :

  1. เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการตระหนักถึงปัญหาของพลังงาน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขและเกิดจิตสำนึก ความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ในการร่วมอนุรักษ์พลังงาน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  2. เกิดเครือข่ายและแกนนำในการทำงานด้านอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง
  3. เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการฯสามารถนำความรู้ด้านคุณค่าและปัญหาของพลังงานและสิ่งแวดล้อมกลับมาพัฒนาโรงเรียนและชุมชนได้อย่างยั่งยืน
  4. เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีในการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ :

  1. ประชุมวางแผนกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในค่าย โดยคัดเลือกกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ปลอดภัยและสอดแทรกข้อคิดและทัศนคติที่ดีการเป็นนักอนุรักษ์ และสำรวจพื้นที่จัดค่าย
  2. ระดมทุนในการดำเนินโครงการค่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การขอทุนสนับสนุนผ่าน Taejai.com และ Street Performance
  3. รับสมัครและคัดเลือกเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ น้องๆ นักเรียนชั้น ม.4- ม.6 ที่มีความสนใจในด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
  4. จัดค่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ อุทยานเขาสามหลั่น จ.สระบุรี วันที่ 1-3 สิงหาคม 2557
  5. สรุปและประเมินผลค่าย
 
นอกจากนี้จะมีกิจกรรมสำรวจพื้นที่ธรรมชาติ เข้าใจถึงความสำคัญและเห็นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจที่ได้กระทำตนให้เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

สมาชิกภายในทีม :

1. นายไพสิฐ สายทอง  ตำแหน่ง: ประธานเครือข่ายฯ

E-mail: coolfire05@gmail.com

2. นายศักดิ์ชัย ตุลารัตน์เรืองนาม  ตำแหน่ง: รองประธาน

E-mail: patum_22_1@hotmail.com

3. นางสาวสุพิชฌา วิชารักษ์  ตำแหน่ง: รองประธาน

E-mail: pui_love banana@hotmail.com

4. นางสาวศุภานัน พิทยาพงศกร  ตำแหน่ง: เลขานุการ

E-mail: supanan33p@gmail.com

ภาคี :

โรงเรียนปทุมคงคา

กิจกรรมค่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม

22 มิถุนายน 2015

หลังจากได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเทใจดอทคอม และการระดมทุนผ่าน Street Performance ทำให้เรามีงบประมาณเพียงพอที่จะทำค่ายสร้างเมล็ดพันธุ์ คนรักษ์สิ่งแวดล้อมจนสำเร็จ ทีมงานเครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ใช้ช่วงเวลา 1 เดือนสุดท้ายในการจัดเตรียมกิจกรรม อุปกรณ์และคัดเลือกน้องๆ จากโรงเรียน ชั้น ม.4- ม.6 ที่มีความสนใจในด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่การศึกษาเขต 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน  50 คน จากผู้สมัครกว่า 200 คน ด้วยการคัดเลือกคำตอบเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ 
 
 
ค่ายนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2558 ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี ในค่ายเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ด้วยกิจกรรมที่อัดแน่นตลอด 3 วัน ท่ามกลางอากาศแจ่มใสและธรรมชาติที่ยังสวยสมบูรณ์สุดๆ ในวันแรก เราเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการละลายพฤติกรรมผ่านกิจกรรมนันทนาการและการวางกฎค่ายในการอยู่ร่วมกัน ก่อนจะแบ่งน้องๆ เข้ากลุ่ม 5 กลุ่ม  กิจกรรม Walk rally เป็นกิจกรรมแรก โดยน้องๆ จะต้องกระจายตัวกันไปตามด่านต่างๆ ซึ่งกิจกรรมในแต่ละด่านเน้นความสนุกสนานและสอนน้องๆ เกี่ยวกับสิ่งง่ายๆ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การคัดแยกขยะ การสูญเสียระหว่างการขนส่ง การทำลายหน้าดิน เป็นต้น แต่ละทีมจะต้องสลับหมุนเวียนกันไปในทุกๆ ด่าน หลังจากเหนื่อยและเลอะเทอะกับการวิ่งตะลุยด่าน
 
กิจกรรมนันทนาการสนุกสนานเพื่อละลายพฤติกรรม
 
กิจกรรม Walkrally
 
กิจกรรมในช่วงเย็นเป็นกิจกรรมวิกฤตการณ์และความคิดสร้างสรรค์ น้องๆ จะได้รับ ภาพสื่อ”ปัญหา”และ”ทางแก้” โดยแต่ละทีม จะต้องลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง เพื่อหาทางแก้เจ๋งๆ ให้กับแต่ละปัญหา งานนี้เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะเราอยากให้น้องๆ ปลดตัวเองจากกรอบความคิดเดิมๆ ทางแก้แบบเดิมๆ ก่อนที่จะให้น้องๆ ได้ระดมสมองหาทางแก้โจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมของเราในวันรุ่งขึ้น 
 
กิจกรรมวิกฤตการณ์และความคิดสร้างสรรค์
 
ก่อนจะจบด้วยกิจกรรมถอดหัวโขน ซึ่งเป็นกิจกรรมการเปิดใจและพูดคุยกระชับมิตร หัวค่ำวันนั้นเราพาน้องๆ เดินกลับที่พักและพวกเราก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับฝูงหิ่งห้อยที่เปล่งแสงสวยงามเป็นพุ่มตลอดทางเดิน สร้างความตื่นเต้น ประทับใจให้กับเด็กเมืองที่ไม่ค่อยมีโอกาสจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน
 
วันที่ 2 เราเริ่มกิจกรรมออกกำลังกายในตอนเช้าในหมอกเย็นๆ ในวันนี้กิจกรรมเกมส์เศรษฐี เป็นกิจกรรมใหม่ตามกระแสนิยม โดยน้องๆ แต่ละทีมจะต้องพยายามเอาตัวรอดและป้องกันเมืองจากภัยพิบัติให้ได้เพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ หลังจากคึกครื้นกับกิจกรรมเกมส์เศรษฐี เราได้จัดกิจกรรมธรรมชาติและสมาธิ คือ กิจกรรมต้นไม้เพื่อนรัก เน้นให้น้องค่ายได้สัมผัสและซึมซับธรรมชาติ พิจารณาถึงความเป็นไปของสิ่งต่างๆ รอบตัวที่น้องๆ อาจจะไม่เคยได้คิดถึงมาก่อน น้องๆ ได้แบ่งปันและแชร์เรื่องราวที่ต้นไม้ที่ได้ถ่ายทอดให้เขาฟัง มีทั้งเรื่องราวที่สนุกสนานและเรื่องราวที่ซึ้งๆ ที่น่าสนใจ กิจกรรมถัดไป เป็นกิจกรรม
 
กิจกรรมต้นไม้เพื่อนรัก
 
การสร้างป่าในจินตนาการ กิจกรรมนี้เราจะให้น้องได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบป่าที่ตนอยากให้เป็น หรือ คิดว่าควรจะเป็น จากวัสดุเหลือใช้รอบตัวหรือที่หาได้จากบริเวณใกล้เคียงโดยรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด แต่ละทีมทำออกมาได้ดีมากจนน่าประทับใจ กิจกรรมสุดท้ายของเย็นวันนั้น คือ กิจกรรมผู้พิพากษา เป็นกิจกรรมการโต้วาทีแทนธรรมชาติที่มนุษย์เอารัดเอาเปรียบมาอย่างยาวนาน เราได้เห็นนักอนุรักษ์ที่มีไอเดียและพูดจาฉะฉานรุ่นใหม่หลายๆ คนในกิจกรรมนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆ อีกกิจกรรมนึง วันที่ 2 จบลงด้วยกิจกรรมบายศรี เพื่อต้อนรับน้องเล็กคนใหม่ของเครือข่ายฯ อย่างเป็นทางการ 
 
กิจกรรมสร้างป่าในจินตนาการ
 
วันที่ 3 วันสุดท้ายของค่าย เราเริ่มต้นด้วยกิจกรรมการสำรวจเส้นทางธรรมชาติ ท่านวิทยากรจากอุทยานเขาสามหลั่นได้กรุณานำทางน้องๆ เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นเป็นที่สนุกสนาน นอกจากนี้ ท่านวิทยากรยังได้เล่าถึงประสบการณ์ของท่านตอนสู้ ไล่ล่ากับพวกคนขโมยต้นไม้ประยูงตื่นเต้นและปลุกใจสุดๆ ถัดมา เราเรียกรวมน้องๆ เพื่อทำกิจกรรมการระดมความคิดแก้โจทย์ “ถังขยะที่ไม่ต้องใช้มือจับ” เพื่อออกแบบถังขยะแบบใหม่ที่แก้ปัญหาคนไม่ยอมทิ้งขยะลงถัง น้องๆ ได้แชร์ไอเดียน่าสนใจมากมายที่เราคิดว่าสามารถเอาไปทำได้ต่อไป 
 
วิทยากรกำลังบอกเล่าประสบการณ์การต่อสู้กับพวกลอบตัดต้นไม้ประยูง
 
วิทยากร นำน้องๆ เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น 
 
ระดมไอเดีย ออกแบบถังขยะรุ่นใหม่ ไม่ต้องใช้มือจับ
 
ในช่วงเช้าของวันนี้เราวางกิจกรรมหลวมๆ เพื่อให้น้องได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความประทับใจและเขียนสมุดข่อยไว้เป็นที่ระลึกให้กันและกัน ก่อนจะประกาศผลทีมที่ได้คะแนนสูงที่สุดและผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในสาขาต่างๆ กิจกรรมสุดท้ายก่อนจากกัน คือ “กิจกรรมรักจัง” เราเชิญน้องๆ ทุกคนมารวมทำปฏิสัญญารอบต้นไม้ประยูงต้นใหญ่ว่าเราจะรักและร่วมกันดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสุดความสามารถของเรา ก่อนจะปิดค่ายและมอบประกาศนียบัตรให้แก่น้องๆ ทุกคน
 
ค่ายปิดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่น้องๆ ค่ายและเครือข่ายฯ เรายังคงนัดพบปะ ประชุมกันเป็นอย่างต่อเนื่องๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และรวมกันวางแผนเพื่อเตรียมรับน้องรุ่นใหม่ในค่ายที่ 13 ต่อไป
 
เรามาฟังเสียงบางส่วนจากน้องๆ ที่ได้เข้าร่วมค่าย
 
ชนากานต์ โชติพนิตพงศ์  (อาย) โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม
"Ecamp เป็นค่ายแรกของหนูและก็เป็นค่ายที่หนูประทับใจมาก หนูไปแบบไม่รู้จักใครเลย ตอนแรกๆก็รู้สึกว่าเหงาๆเหมือนกัน แต่พอได้ทำกิจกรรมได้รู้จึกพี่ๆเพื่อนๆในค่าย ก็รู้สึกมีความสุขมาก ทุกๆกิจกรรมในค่ายสนุกสนานและก็สื่อความหมายได้ดีมาก ค่ายนี้ทำให้หนูมีมุมมองใหม่ๆ ทำให้หนูเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าอยากดูแลและปกป้องธรรมชาติให้อยู่กับเราไปนานๆ"
 
 
ทิภา ฉายดวงฤดีพร (สตางค์) 
"กิจกรรมในค่าย เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน มาก แต่ก็สอดแทรกข้อคิด เปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัว ทำให้เราได้เห็นถึงผลกระทบว่าหากเราละเลยสิ่งง่ายๆ เช่น เปิดไฟทิ้งไว้ เปิดน้ำทิ้งไว้  ก็อาจจะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองพลังงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างออกไปได้อีกมาก"
"กิจกรรมที่พี่ๆ ให้พวกหนูทำ ทำให้พวกเรามองเห็นว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การที่จะทำให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ ไม่ได้มีแค่ การปลูกต้นไม้ มันเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันของเรา เช่น กิจกรรมสร้างป่าในจินตนาการ หนูได้เรียนรู้ว่าแค่การหยิบย้ายเศษใบไม้หรือกิ่งไม้เล็กๆ ที่เราไม่ได้มองเห็นว่าความสำคัญก็อาจเปลี่ยนสมดุลของพื้นที่ตรงนั้นไป มันทำให้หนูตระหนักถึงสิ่งรอบตัวมากๆ  จากการที่หนูได้ไปเข้าค่ายมา หนูได้ไปเข้าร่วมโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนค่ะ  เราก็เริ่มจากการมองสำรวจว่าสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนของเรามีอะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้บ้าง ตรงไหนที่น่าแก้ไข"
"สิ่งที่ได้รับจริงๆ จากค่าย E-Camp มันแตกต่างไปจากที่หนูนึกไว้ตอนแรกเลยค่ะ ค่ายนี้ไม่ใช่ค่ายที่พาไปปลูกป่า อนุรักษ์ป่า สร้างฝาย แต่ค่ายนี้ได้เน้นไปที่การให้ความรู้  จิตสำนึกและความรู้สึกจริงๆ ว่าเราควรดูแลธรรมชาติด้วยตัวเราเอง  แค่เราเริ่มลงมือทำ สตางค์เชื่อว่าความรักธรรมชาติมันเกิดขึ้นมาจริงๆ ในตัวของพวกเรา E-Camp ทุกคน  เรารู้สึกว่าค่ายนี้มันไม่ได้จบแค่ 3 วันนี้ แต่เราจะยังคงเป็นสมาชิก”บ้านสีเขียว” บ้านของเรา E-Camp ทุกคน"
 
เครือข่ายฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน เปิดโอกาสให้เราได้ช่วยสังคมสร้างนักอนุรักษ์และปลูกฝังความรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่น้องคนรุ่นใหม่ 
 
เครือข่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
 

แผนการใช้เงิน

รายการราคา / หน่วยจำนวนราคารวม (บาท)
1. ค่ายานพาหนะ (3 วัน) 12,000

2

24,000
2. ค่าที่พัก (๒ คืน)
 - ห้องพัก ๓ หลัง
 - เต็นท์ พร้อมถุงนอน

 

800

150

 

3

70

 

2,400

10,500

3. ค่าอาหาร (๗ มื้อ)
 - อาหารหลัก ๒ อย่าง ๗ มื้อ

 

50

 

70

 

24,500

4. ค่าเสื้อโครงการ120809,600
5. ค่าประกันอุบัติเหตุ 30702,100
6. วัสดุอุปกรณ์2,500 2,500
7. ค่าสำรวจสถานที่2,000 2,000
8. ค่าเบ็ดเตล็ด3,500 3,500
รวมทั้งหมด  81,100

* ทั้งนี้ ในส่วนที่ระดมทุนจากเทใจดอทคอมจะเป็นงบประมาณในการเตรียมกล้าลงปลูกป่า ค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรม ค่าที่พักและค่าอาหาร