กองบุญกู้วิกฤติ เพื่อ ‘น้องเก้า’ ก้าวข้ามผ่าน ‘โรคโปรตีนรั่ว’
“น้องเก้า” อายุ 9 ปี ป่วยออด ๆ แอด ๆ มาตั้งแต่เกิดการรักษาเป็นไปตามอาการที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วแพทย์พบว่า น้องเก้าป่วยเป็นโรคโปรตีนรั่ว จึงไม่สามารถกินอาหารได้เหมือนเด็กทั่วไป น้องต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่ไกลจากที่บ้านกว่า 80 กิโลเมตร ทุกเดือน เดือนละ 3-4 วัน จึงชวนสมทบทุนโครงการกองบุญกู้วิกฤติฯ เพื่อช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ตลอดระยะเวลาการรักษา 1 ปี
ระยะเวลาโครงการ 15 มิ.ย. 2565 ถึง 31 ก.ค. 2565 พื้นที่ดำเนินโครงการ ระบุพื้นที่: บุรีรัมย์
ยอดบริจาคขณะนี้
33,100 บาทเป้าหมาย
33,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
"น้องเก้า" อาการโดยรวมดีขึ้น แต่ยังคงต้องควบคุมอาหารการกิน
หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดี ผ่านการประสานงานจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ "น้องเก้า" ที่ป่วยเป็นโรคโปรตีนรั่ว ไม่สามารถกินอาหารได้เหมือนคนปกติ ต้องเดินทางไปพบหมอที่โรงยาบาลมหาราชจังหวัดนคราชสีมาทุกเดือน ระยะหลังอาการเริ่มดีขึ้นหมอเริ่มนัดตรวจอาการทุก ๆ 3 เดือน ก่อนพบหมอแต่ละครั้งน้องเก้าต้องตรวจค่าเลือด และต้องนำปัสสาวะตรวจด้วยทุกครั้ง อาการล่าสุดหลังจากพบหมอเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 อาการโดยรวมดีขึ้นการพบหมอในครั้งนี้ต้องเจาะเลือดและนำปัสสาวะมาตรวจพบรอยรั่วเพิ่ม มีเลือดออกในน้ำปัสสาวะเล็กน้อย หมอจึงเปลี่ยนตัวยาเป็นยาสำหรับโปรตีนรั่วต้องกินครึ่งเม็ดหลังอาหารเช้าและงดการออกกำลังกายเพราะมีไตอักเสบ และต้องควบคุมอาการเหมือนทุก ๆ ครั้ง ต้องกินไข่ขาวให้ได้วันละ 3 ฟองเหมือนเดิม
ภาพ: "น้องแก้า" กำลังรอพบหมอตามนัด
ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
“น้องเก้า” อายุ 9 ปี จากจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ มาตั้งแต่เกิดการรักษาเป็นไปตามอาการที่เกิดขึ้น
จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วแพทย์โรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลจังหวัดนครราชสีมาพบว่า น้องเก้าป่วยเป็นโรคโปรตีนรั่ว จึงไม่สามารถกินอาหารได้เหมือนเด็กทั่วไปข้อห้ามของน้องเก้า คือ อาหารโปรตีนสูงเนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่มีรสชาติหวาน มัน เค็ม ในแต่ละวันต้องกินไข่ขาว 3 ฟอง เพื่อเพิ่มโปรตีน อาหารประเภททอดต้องใช้น้ำมันรำข้าวเท่านั้น
สำหรับครอบครัวที่ไม่มีอาหารกินครบ 3 มื้อต่อวัน การที่ต้องควบคุมคุณภาพอาหาร จึงนับเป็นเรื่องยากลำบาก ความหนักใจที่ตามมาของครอบครัว คือ ต้องพาน้องเก้าไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่ไกลจากที่บ้านกว่า 80 กิโลเมตร ทุกเดือน เดือนละ 3-4 วัน
กองบุญกู้วิกฤตเป็นกองบุญที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เพื่อความช่วยเหลือแก่เด็กที่มีความเป็นอยู่ขัดสนยากลำบากเป็นพิเศษและชีวิตที่อยู้ในภาวะวิกฤติต้องการความช่วยเหลือการเร่งด่วน ให้เด็กสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติหรือใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด ปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษแล้วกว่า 2,378 คน
ด้วยวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ผลกระทบหนักทอดผ่านยาวนานมากว่า 2 ปี ทำให้ปีนี้ยังคงเป็นอีกปีที่เด็กด้อยโอกาสในภาวะวิกฤตมีจำนวนมากขึ้น จากการสำรวจสถานภาพและความต้องการจำเป็นของเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่การดูแลของมูลนิธิฯ มากกว่า 200 คน อยู่ในภาวะวิกฤติ เจ็บป่วยเรื้อรัง ที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงปลอดภัย กำพร้าพ่อ-แม่และอาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่ชรา และต้องการโอกาสในการรักษาและเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาสังคม
1) ผลกระทบด้านสุขอนามัย
2) ผลกระทบด้านสาธารณสุข
3) ผลกระทบด้านคุณภาพชีวิต อาชีพ รายได้
แนวทางในการให้ความช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤติ
1) ระยะเร่งด่วน
• สนับสนุนการช่วยเหลือเฉพาะทาง
• สนับสนุนอาหารและน้ำเพื่อการยังชีพ
• ปรับปรุง ซ่อม สร้าง ที่พักอาศัยให้ปลอดภัยถูกสุขลักษณะ
2) ระยะฟื้นฟู
• สร้างแหล่งอาหารในครัว เช่น การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์
• สนับสนุนทุนการศึกษาหรือทุนพัฒนาทักษะอาชีพ
3) ระยะยาว
• ประสานหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับสนับสนุน
• มอบทุนพัฒนาทักษะอาชีพ
• ระดมจิตอาสาจากชุมชนและชาวบ้าน เพื่อร่วมให้การช่วยเหลือ
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
ขั้นที่ 1 การสำรวจ เก็บรวบรวมข้อมูล
ขั้นที่ 2 วางแผนให้ความช่วยเหลือ
ขั้นที่ 3 ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
ผู้รับผิดชอบโครงการ
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ
Facebook: https://www.facebook.com/ThaiCCF
Website: https://www.ccfthai.or.th/
"น้องเก้า" อาการโดยรวมดีขึ้น แต่ยังคงต้องควบคุมอาหารการกิน
หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดี ผ่านการประสานงานจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ "น้องเก้า" ที่ป่วยเป็นโรคโปรตีนรั่ว ไม่สามารถกินอาหารได้เหมือนคนปกติ ต้องเดินทางไปพบหมอที่โรงยาบาลมหาราชจังหวัดนคราชสีมาทุกเดือน ระยะหลังอาการเริ่มดีขึ้นหมอเริ่มนัดตรวจอาการทุก ๆ 3 เดือน ก่อนพบหมอแต่ละครั้งน้องเก้าต้องตรวจค่าเลือด และต้องนำปัสสาวะตรวจด้วยทุกครั้ง อาการล่าสุดหลังจากพบหมอเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 อาการโดยรวมดีขึ้นการพบหมอในครั้งนี้ต้องเจาะเลือดและนำปัสสาวะมาตรวจพบรอยรั่วเพิ่ม มีเลือดออกในน้ำปัสสาวะเล็กน้อย หมอจึงเปลี่ยนตัวยาเป็นยาสำหรับโปรตีนรั่วต้องกินครึ่งเม็ดหลังอาหารเช้าและงดการออกกำลังกายเพราะมีไตอักเสบ และต้องควบคุมอาการเหมือนทุก ๆ ครั้ง ต้องกินไข่ขาวให้ได้วันละ 3 ฟองเหมือนเดิม
ภาพ: "น้องแก้า" กำลังรอพบหมอตามนัด
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ค่าใช้จ่ายในการรับการรักษา ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางไปสถานพยาบาล เบื้องต้นประมาณ 30,000 บาทต่อปี | 1 คน | 30,000.00 |