ถุงมือสานฝันปันสุขเพื่อเด็กพิการทางสมอง Happy CP Gloves
ถุงมือสำหรับเด็กพิการทางสมอง Happy CP Gloves จากเด็ก 4 คนที่ตั้งใจออกแบบอุปกรณ์เพื่อช่วยเด็กพิการทางสมองได้สวมใส่เพื่อลดอาการบีบเกร็งของมือ ป้องกันกระดูกนิ้วและข้อมือหักหรือคดงอ และยังตั้งใจให้ถุงมือเป็นของเล่นเพื่อดึงดูดให้ผู้สวมใส่ชื่นชอบ จนคว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีประกวดนวัตกรรมนานาชาติที่เกาหลีใต้ ร่วมสมทบทุนผลิต 2000 ชุดๆละ 500 บาท เพื่อแจกจ่ายให้แก่พิการทางสมองอื่นๆทั่วประเทศกัน
ระยะเวลาโครงการ 24ม.ค. - 30 มิ.ย. 2566 พื้นที่ดำเนินโครงการ ทั่วประเทศ
ยอดบริจาคขณะนี้
1,111,000 บาทเป้าหมาย
1,111,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
มอบถุงมือแก่น้องๆ ผู้พิการทางสมอง จำนวน 2,000 คน
โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2560 โดยทีมผู้ประดิษฐ์ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาและรับฟังปัญหาจากเด็กพิการทางสมองและครอบครัวของพวกเขา ที่สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก และที่หอผู้ป่วยเด็ก รพ.จุฬาลงกรณ์ จากข้อมูลที่ได้ ทีมได้ออกแบบและทดสอบต้นแบบถุงมือสำหรับเด็กพิการ ซึ่งผ่านการปรับปรุงหลายครั้งจนได้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง
ในช่วงปี 2562-2565 ทีมได้ติดต่อศูนย์เด็กพิการต่างๆ เพื่อประมาณจำนวนถุงมือที่จะผลิต และได้ติดต่อโรงงานผู้ผลิต เพื่อตกลงเรื่องสเปคและราคาและความเป็นไปได้ในการผลิตเพื่อนำไปใช้งานได้ในวงกว้าง
ในปี 2566 ทีมได้เริ่มต้นการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อรวบรวมเงินบริจาค โดยเปิดรับบริจาคผ่านเว็บไซต์เทใจดอทคอม และได้ติดต่อบริษัทองค์กรต่างๆ ที่สนใจเป็นสปอนเซอร์ หลังจากระดมทุนได้ตามเป้าหมาย ทีมจึงได้ผลิตถุงมือตามจำนวนเป้าหมาย 2,000 ชิ้น ซึ่งผลิตเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม 2566 จากนั้นทางทีมได้ทำการกระจายผลิตภัณฑ์ให้ถึงมือเด็กที่ต้องการจริงๆ โดยติดต่อไปหลายองค์กรที่ดูแลเด็กพิการทางสมองทั่วประเทศ ทั้งทางการติดต่อโดยตรงและผ่านกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยยึดหลักว่าต้องมีการแสดงความต้องการก่อนที่เราจะส่งไปให้ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีใช้
จนถึงสิ้นปี 2566 มีถุงมือที่ถูกกระจายแก่ครอบครัวและหน่วยงานดูแลเด็กพิการทางสมองผ่านทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก, สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เชียงใหม่, บ้านนนทภูมิ, บ้านราชาวดีชาย, บ้านราชาวดีหญิง, คลีนิค รพ.จุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ และมูลนิธิดุลภาทร ผู้ได้รับประโยชน์หลักคือเด็กพิการที่ได้ใช้ถุงมือเหล่านี้ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตและการเรียนรู้ของพวกเขา
ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์
" น้องรดาเป็นเด็กผู้หญิง อายุ 9 ขวบค่ะ น้องสมองพิการตั้งแต่กำเนิดค่ะ มีเรื่องของพัฒนาการช้า เป็นโรคลมชักเบาจืด และกรดไหลย้อน ให้อาหารทางหน้าท้องค่ะ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีอาการเกร็งเยอะมาก กัดมือตัวเอง ถุงมือที่ส่งมอบให้น้องๆ พิการได้ใส่เพื่อช่วยลดอาการเกร็ง ช่วยแม่ๆ อย่างพวกเราได้มากๆ เลยค่ะ บางทีอุปกรณ์ช่วยเหล่านี้เราต้องการมาก แต่ไม่มีใครมองเห็นหรือรู้ว่าคนที่มีลูกพิการแบบเราต้องการอะไร คุณแม่ต้องขอบพระคุณทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ ท่านมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้แม่ๆ อย่างเรามีรอยยิ้ม และทำให้เรารู้ว่าพวกเรายังมีคนที่มองเห็นถึงความต้องการของลูกๆ ที่พิการของเราอยู่ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าสิ่งของที่พวกเราได้รับ ก็คือ หัวใจที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นผู้ให้ และความรักที่ส่งผ่านอุปกรณ์ที่ช่วยให้ เด็กๆ พิการได้มีรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อเห็นตุ๊กตาที่มือของตัวเอง เขาสามารถพูดคุยเล่นกับมือตัวเองในภาษาของเขาเองอย่างมีความสุขในทุกครั้งที่ได้ใส่ เราเป็นผู้รับเห็นลูกมีความสุข ก็ต้องบอกว่าขอบคุณที่สุดจากหัวใจของแม่เลยค่ะ ขอบคุณที่ยังมีคนอีกกลุ่มมองเห็นความต้องการของพวกเรา ขอบพระคุณจริงๆ ค่ะ " คุณแม่น้องรดา
" ขอบคุณเด็กๆ ที่ทำอุปกรณ์ดีๆ มาให้น้องในครั้งนี้ด้วยค่ะ น้องชุนเทียนสนุกสนานเพลินกับของเล่นที่ติดมากับอุปกรณ์ค่ะ " คุณแม่น้องชุนเทียน
วิดีโอความประทับใจของยายแก้วและน้องเน็ต
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ | อธิบาย | จำนวนที่ได้ประโยชน์ | ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น |
ผู้พิการและผู้ป่วย | ครอบครัวและหน่วยงานดูแลเด็กพิการทางสมองผ่านทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก, สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เชียงใหม่, บ้านนนทภูมิ, บ้านราชาวดีชาย, บ้านราชาวดีหญิง, คลีนิค รพ.จุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ และมูลนิธิดุลภาทร | 2,000 คน | ถุงมือสามารถป้องกันและบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการเกร็งของกล้ามเนื้อได้ ลดปัญหากระดูกหักข้อมือและนิ้วคดงอ อีกทั้งยังเป็น ‘ของเล่น’ สร้างความสุขพร้อมกับส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กพิการทางสมองในด้านต่างๆ เช่น ด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา |
รูปภาพการดำเนินกิจกรรม
ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
ปี 2565 ประเทศไทยมีเด็กพิการทางสมองที่เกิดใหม่ประมาณ 1,000 คน เพราะความผิดปกติทางระบบประสาท โดยสาเหตุมาจากสมองที่กำลังพัฒนาที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและท่าทาง ผิดปกติเสียหายหรือพัฒนาไม่สมบูรณ์ มีผลทำให้การเคลื่อนไหวร่างกาย การขยับแขนขา ลำตัวใบหน้า ลิ้น รวมถึงการทรงตัวผิดปกติ เด็กพิการทางสมอง มักมีอาการแขนขาเกร็ง เดินปลายเท้าเขย่ง หรือบางคนไม่สามารถเดินได้ บางคนเกร็งมากจนทำให้เกิดความเจ็บปวดกระดูกและข้อผิดรูป เกิดภาวะข้อเคลื่อนหรือข้อหลุด
เด็กเหล่านี้ต้องหาหมอและกายภาพบำบัดเป็นประจำ เพื่อเพิ่มทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ฝึกการดูดกลืน ทักษะการทำกิจวัตรประจำวัน และการช่วยเหลือตัวเอง
เด็ก 4 คน จากศูนย์นวัตกรรมโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ประกอบด้วย ด.ญ.ณิชมน สุภัทรเกียรติ ด.ญ.ไอริณรยา โสตางกูร ด.ช.ศุภวิชญ์ วรรณดิลก และ ด.ช.สุภชีพ สหกิจรุ่งเรือง ถูกชักชวนให้เข้าประกวด โครงงานนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือคนพิการ จึงได้เลือกประเด็นที่ช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ โดยทั้ง 4 คนนี้มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเด็กพิการทางสมอง จึงติดต่อบ้านสมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นกเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการและปัญหาของเด็กพิการทางสมอง และเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบ “ถุงมือสานฝันปันสุขเพื่อเด็กพิการทางสมอง Happy CP Gloves” และยังได้รับการช่วยเหลือจาก บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด ในการพัฒนาเป็นถุงมือนี้ในที่สุด
ถุงมือสีสันสดใส มีตัวตุ๊กตาน่ารัก ไม่เพียงช่วยบรรเทาปัญหานิ้วติด กระดูกนิ้วหัก ข้อมือพับ ที่เป็นปัญหาสำคัญของคนที่มีอาการนี้ แต่มันยังเป็น ‘ของเล่น’ ที่ทำให้เพื่อนของพวกเขามีความสุข ไปคว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีประกวดนวัตกรรมนานาชาติที่เกาหลีใต้ที่ชื่อ Korea International Youth Olympiad - KIYO 2017
เด็กๆใช้เวลากับการทดสอบถุงมือกับน้องพิการทางสมองหลายครั้ง เพื่อเก็บข้อมูลมาปรับปรุงถุงมือให้ดียิ่งขึ้น เด็กๆ นำผลงานต้นแบบไปลองใส่ให้น้องๆ ปรากฎว่าช่วยลดการหดเกร็งของมือได้จริง แต่สิ่งที่เห็นชัดเลยคือน้องมีความสุขมาก ทั้งเวลามีของเล่นอยู่ในมือ และเวลาฟังพี่ๆ เล่านิทาน
“ดีใจครับที่มันใช้งานได้ ผมเห็นเขายิ้ม แล้วเขาก็บีบ ดูเหมือนสนุกกับของเล่น เราก็สนุกที่ได้เล่นกับน้อง” ด.ช.สุภชีพ เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้น
แม้การประกวดจะจบลง แต่เด็กๆ และผู้ปกครองมีความตั้งใจที่อยากให้ถุงมือผลิตและนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กสมองพิการทั่วประเทศ หากแต่เราต้องมีเงินทุนก้อนหนึ่งเพื่อดำเนินการผลิต โดยปรับลดตัวตุ๊กตาให้เหลือ 2 ตัว คือ ไก่กับเต่า พร้อมถุงมือ 2 ข้าง งบประมาณพร้อมค่าจัดการจะราวๆ ชุดละ 500 บาท โดยตั้งใจจะผลิตจำนวน 2000 ชุดและจัดส่งไปที่ศูนย์เด็กพิการทางสมองทั่วประเทศ จังหวัดละ 10-30 ชุด
พ่อๆ แม่ๆ และเด็กๆ จึงมาช่วยกันคิดหาทางระดมทุน แม้ยังไม่รู้ว่าโครงการจะเดินไปต่อได้ไกลขนาดไหน แต่พวกเขาตั้งใจจะไปให้ไกลที่สุด เพื่อส่งต่อความสุขไปให้ถึงน้องๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
"หลังจากที่ท่านได้บริจาคให้โครงการ Happy CP Gloves ผ่านทางเทใจแล้ว รบกวนท่านเข้าไปกรอกข้อมูลผู้บริจาคที่ https://forms.gle/5rnjciCjYFGPm1hD9 เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทางโครงการในการรวบรวมรายนามผู้บริจาคและประกาศในรายงานรายชื่อผู้มีอุปการคุณที่จะแสดงใน Facebook Page ของโครงการ อีกทั้งเพื่อจะส่งหนังสือขอบคุณทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ท่าน"
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
1. ออกแบบและจัดทำต้นแบบ ทดสอบการใช้งานจริง และปรับแต่งหลายรอบ จนเสร็จสมบูรณ์พร้อมผลิต และตกลงเรื่องเสปกและราคากับทางโรงงานผู้ผลิตแล้ว โดยจะผลิต 2000 ชุด ต้นทุนการผลิตชุดละ 500 บาท
2. ติดต่อและประสานตามศูนย์เด็กพิการทางสมองต่างๆทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบปริมาณความต้องการเบื้องต้น
3. เปิดรับบริจาคผ่าน เทใจ และติดต่อบริษัทเอกชนที่สนใจเป็น sponsors
4. ดำเนินการผลิตตามจำนวนที่ต้องการหรือตามจำนวนเงินที่ได้รับบริจาค
5. จัดส่งถุงมือไปให้หน่วยงานที่แจ้งความจำนงค์ไว้ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้เด็กพิการทางสมองในสังกัดของแต่ละหน่วยงานนั้นต่อไป
ผู้รับผิดชอบโครงการ
1. นส. ณิชมน สุภัทรเกียรติ
2. นส.ไอริณรยา โสตางกูร
3. นาย ศุภวิชญ์ วรรณดิลก
4. นาย สุภชีพ สหกิจรุ่งเรือง
จากศูนย์นวัตกรรมโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ
มอบถุงมือแก่น้องๆ ผู้พิการทางสมอง จำนวน 2,000 คน
โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2560 โดยทีมผู้ประดิษฐ์ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาและรับฟังปัญหาจากเด็กพิการทางสมองและครอบครัวของพวกเขา ที่สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก และที่หอผู้ป่วยเด็ก รพ.จุฬาลงกรณ์ จากข้อมูลที่ได้ ทีมได้ออกแบบและทดสอบต้นแบบถุงมือสำหรับเด็กพิการ ซึ่งผ่านการปรับปรุงหลายครั้งจนได้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง
ในช่วงปี 2562-2565 ทีมได้ติดต่อศูนย์เด็กพิการต่างๆ เพื่อประมาณจำนวนถุงมือที่จะผลิต และได้ติดต่อโรงงานผู้ผลิต เพื่อตกลงเรื่องสเปคและราคาและความเป็นไปได้ในการผลิตเพื่อนำไปใช้งานได้ในวงกว้าง
ในปี 2566 ทีมได้เริ่มต้นการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อรวบรวมเงินบริจาค โดยเปิดรับบริจาคผ่านเว็บไซต์เทใจดอทคอม และได้ติดต่อบริษัทองค์กรต่างๆ ที่สนใจเป็นสปอนเซอร์ หลังจากระดมทุนได้ตามเป้าหมาย ทีมจึงได้ผลิตถุงมือตามจำนวนเป้าหมาย 2,000 ชิ้น ซึ่งผลิตเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม 2566 จากนั้นทางทีมได้ทำการกระจายผลิตภัณฑ์ให้ถึงมือเด็กที่ต้องการจริงๆ โดยติดต่อไปหลายองค์กรที่ดูแลเด็กพิการทางสมองทั่วประเทศ ทั้งทางการติดต่อโดยตรงและผ่านกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยยึดหลักว่าต้องมีการแสดงความต้องการก่อนที่เราจะส่งไปให้ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีใช้
จนถึงสิ้นปี 2566 มีถุงมือที่ถูกกระจายแก่ครอบครัวและหน่วยงานดูแลเด็กพิการทางสมองผ่านทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก, สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เชียงใหม่, บ้านนนทภูมิ, บ้านราชาวดีชาย, บ้านราชาวดีหญิง, คลีนิค รพ.จุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ และมูลนิธิดุลภาทร ผู้ได้รับประโยชน์หลักคือเด็กพิการที่ได้ใช้ถุงมือเหล่านี้ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตและการเรียนรู้ของพวกเขา
ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์
" น้องรดาเป็นเด็กผู้หญิง อายุ 9 ขวบค่ะ น้องสมองพิการตั้งแต่กำเนิดค่ะ มีเรื่องของพัฒนาการช้า เป็นโรคลมชักเบาจืด และกรดไหลย้อน ให้อาหารทางหน้าท้องค่ะ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีอาการเกร็งเยอะมาก กัดมือตัวเอง ถุงมือที่ส่งมอบให้น้องๆ พิการได้ใส่เพื่อช่วยลดอาการเกร็ง ช่วยแม่ๆ อย่างพวกเราได้มากๆ เลยค่ะ บางทีอุปกรณ์ช่วยเหล่านี้เราต้องการมาก แต่ไม่มีใครมองเห็นหรือรู้ว่าคนที่มีลูกพิการแบบเราต้องการอะไร คุณแม่ต้องขอบพระคุณทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ ท่านมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้แม่ๆ อย่างเรามีรอยยิ้ม และทำให้เรารู้ว่าพวกเรายังมีคนที่มองเห็นถึงความต้องการของลูกๆ ที่พิการของเราอยู่ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าสิ่งของที่พวกเราได้รับ ก็คือ หัวใจที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นผู้ให้ และความรักที่ส่งผ่านอุปกรณ์ที่ช่วยให้ เด็กๆ พิการได้มีรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อเห็นตุ๊กตาที่มือของตัวเอง เขาสามารถพูดคุยเล่นกับมือตัวเองในภาษาของเขาเองอย่างมีความสุขในทุกครั้งที่ได้ใส่ เราเป็นผู้รับเห็นลูกมีความสุข ก็ต้องบอกว่าขอบคุณที่สุดจากหัวใจของแม่เลยค่ะ ขอบคุณที่ยังมีคนอีกกลุ่มมองเห็นความต้องการของพวกเรา ขอบพระคุณจริงๆ ค่ะ " คุณแม่น้องรดา
" ขอบคุณเด็กๆ ที่ทำอุปกรณ์ดีๆ มาให้น้องในครั้งนี้ด้วยค่ะ น้องชุนเทียนสนุกสนานเพลินกับของเล่นที่ติดมากับอุปกรณ์ค่ะ " คุณแม่น้องชุนเทียน
วิดีโอความประทับใจของยายแก้วและน้องเน็ต
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ | อธิบาย | จำนวนที่ได้ประโยชน์ | ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น |
ผู้พิการและผู้ป่วย | ครอบครัวและหน่วยงานดูแลเด็กพิการทางสมองผ่านทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, สมาคมศูนย์การเรียนรู้คนพิการบ้านแม่นก, สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เชียงใหม่, บ้านนนทภูมิ, บ้านราชาวดีชาย, บ้านราชาวดีหญิง, คลีนิค รพ.จุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ และมูลนิธิดุลภาทร | 2,000 คน | ถุงมือสามารถป้องกันและบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการเกร็งของกล้ามเนื้อได้ ลดปัญหากระดูกหักข้อมือและนิ้วคดงอ อีกทั้งยังเป็น ‘ของเล่น’ สร้างความสุขพร้อมกับส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กพิการทางสมองในด้านต่างๆ เช่น ด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา |
รูปภาพการดำเนินกิจกรรม
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ค่าผลิตถุงมือ 1 ชุดมี 4 ชิ้น ราคาชุดละ 500 บาท | 2000 ชุด | 1,000,000.00 |
2 | ค่าจัดการจัดส่งถุงมือไปตามศูนย์ทั่วประเทศ | 50 ศูนย์ | 10,000.00 |