บ้านที่แข็งแรงให้ครอบครัวแม่ชลาลัย
สร้างบ้านให้ครอบครัวแม่ชลาลัยและเด็กน้อย 3 คนได้มีบ้านที่มั่งคงและปลอดภัย เนื่องจากบ้านที่ทำจากไม้สานทรุดโทรมอย่างมาก บริเวณห้องต่างๆ และห้องน้ำมีรูจากการผุผังที่คนนอกสามารถมองเข้ามาได้ ยิ่งทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อคนในครอบครัว
ระยะเวลาโครงการ 3 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ กระบี่
ยอดบริจาคขณะนี้
54,201 บาทเป้าหมาย
275,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
สร้างบ้านให้ครอบครัวชลาลัย
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบสังคมไทยในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยนั้น มีปัญหาในด้านการระดมทุนนั้นล่าช้าจากการได้รับเงินสนับสนุนโครงการของผู้บริจาคต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่ต่างโดนผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 นี้ทั้งสิ้น ทำให้บ้านคุณชลาลัยก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกกิจกรรมการระดมทุนและสร้างบ้านให้กับครอบครัวของคุณชลาลัย แต่ด้วยการสนับสนุนและความตั้งใจในการช่วยเหลือพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ ของทางเพจเทใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็มในการช่วยเหลือในการระดมทุนให้กับทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยในครั้งนี้ โดยทางมูลนิธิฯ ได้เริ่มการดำเนินงานทันที หลังจากได้มีการระดมทุนอีกครั้ง โดยเริ่มจากการลงสำรวจพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างของครอบครัวคุณชลาลัยอีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างบ้าน และการช่วย ลงแรง เล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณชลาลัยในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และผู้รับเหมาในการก่อสร้างบ้านของตนเอง ทั้งนี้จึงได้มีการดำเนินงานก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ และลุล่วงไปด้วยดี
ความประทับใจของคุณชลาลัย
คุณชลาลัย บุตรหมัน (ซันมา) อายุ 47 ปี เป็นคนจังหวัดกระบี่ ซึ่งอยู่อาศัยอยู่บ้านในบ้านที่ทรุดโทรม มีอาชีพรับจ้างขายของชำกับพี่สาวที่เปิดร้านอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงามาเป็นระยะเวลา 30 กว่าปีกว่า และมีความหวังที่อยากจะมีบ้านเป็นของตนเองมาก เพื่อให้ลูก ๆ ได้อยู่อย่างสบายและปลอดภัยในอนาคต ทั้งนี้คุณชลาลัยยังได้เล่าว่า มีความประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวที่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย ในการสร้างบ้านให้ตน โดยก่อนหน้านี้สภาพความเป็นอยู่ของคุณชลาลัยนั้นสภาพที่อยู่อาศัยค่อนข้างยากลำบาก ตัวบ้านทรุดโทรมอย่างมากทั้งยังต้องกังวลในเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินและสุขภาพ ร่างกายของตนเองด้วย รวมทั้งลูก ๆ ที่ยังเล็กทั้ง 3 คน ได้แก่ เด็กหญิงณัฐนันท์ อายุ 12 ปี เด็กหญิงชานันท์ อายุ 10 ปี และเด็กชายณัฐภัทร์ อายุ 4 ปี ซึ่งคืนไหนที่มีพายุฝนเข้ามา
คุณชลาลัยจะยิ่งมีความกังวลเป็นอย่างมาก ในขณะที่ระหว่างนอนหลับ ถึงหลับก็หลับไม่เต็มอิ่ม เพราะด้วยสภาพบ้านและความเป็นอยู่ที่ไม่มั่นคงและปลอดภัยใด ๆ ทำให้คุณชลาลัยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือที่อยู่อาศัยนี้กับมูลนิธิฯ โดยการประชาสัมพันธ์ของผู้นำชุมชนและรอคอยโอกาสนั้นอย่างมีความหวัง เกือบ 3 ปีที่คุณชลาลัยรอคอย และก็สมหวัง เมื่อมีเจ้าหน้าที่ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ได้ติดต่อเข้ามาว่าได้รับการช่วยเหลือ คุณชลาลัยกล่าวว่าเป็นการรอคอยที่มีความรู้สึกยาวนานมากแต่คุ้มค่ามาก ๆ เช่นกัน ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบในหลายพื้นที่ทำให้การได้สร้างบ้านต้องหยุด และล่าช้าลงไปจนทำให้คุณชลาลัยมีความกังวล แต่ด้วยพลังศรัทธากับแรงสนับสนุนของผู้บริจาคและความมุ่งมั่น ตั้งใจของมูลนิธิฯ ที่ต้องดำเนินการสร้างบ้านให้กับครอบครัวของคุณชลาลัยไว้นั้นเป็นไปได้ตามวัตถุประสงค์ ทำให้โครงการนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี คุณชลาลัยเองมีความรู้สึกที่ดีใจมาก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ลูก ๆ เองก็ดูมีความสุขมากจากการที่ได้บ้านหลังนี้ ซึ่งทำให้มีพื้นที่ในการพักผ่อน และปลอดภัยที่จะวิ่งเล่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าเป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็มีความพอเพียงพอที่จะสร้างความสุขในการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งนี้ยังส่งผลให้มีพลังชีวิตและเรี่ยวแรงในการออกไปทำงาน คุณชลาลัย กล่าวขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ หน่วยงานอย่างยิ่งที่ได้ช่วยกันสนับสนุนบ้านหลังนี้ให้ซึ่งเป็นความหวังเดียวที่จะมีบ้านที่อยู่อย่างมั่นคงและปลอดภัย เพราะถ้าด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองนั้นคงไม่มีโอกาสนี้แน่นอน คุณชลาลัยได้ทิ้งท้ายกล่าวไว้ว่า อยากให้โครงการดี ๆ แบบนี้มีต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีผู้ด้อยโอกาสอีกจำนวนมาก ในหลายพื้นที่ของสังคมไทยที่ยังรอคอยความหวังในการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง, แข็งแรงและปลอดภัยอยู่
ภาพประกอบ
การดำเนินการสร้างบ้านทุก ๆ หลังนั้นทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยปลูกสร้างนั้นจะรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการสร้างให้กับผู้บริจาคตลอด เพื่อแจ้งถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งสภาพแวดล้อม รวมถึงการทำงานของผู้รับเหมาโดยจะดูแลถึงความปลอดภัย ความแข็งแรง ของวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้นั้นให้มีมาตราฐาน ในการนำมาก่อสร้างบ้าน โดยจะทำให้ออกมาอย่างดีที่สุด ทีมเจ้าหน้าที่จะทำบันทึกและรายงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มวางแผนดำเนิน ตลอดจนการก่อสร้างให้ตรงตามแบบและแผนระยะเวลาที่ตั้งไว้รวมถึงงบประมาณที่นำมาใช้ไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ปลอดภัยโดยผู้อยู่อาศัยที่ได้รับบ้านจากทางมูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทยนั้น จะได้อยู่อาศัยได้อย่างยาวนานและอย่างยั่งยืน ตลอดไป
ภาพของความอบอุ่นในครอบครัวคุณชลาลัยเมื่อกลับมาบ้านแล้ว ได้พักผ่อนอย่างสบายใจ จากการที่ได้มีเวลาอยู่อาศัยกับครอบครัวในพื้นที่ที่มั่นคงและปลอดภัย ทั้งยังได้เห็นลูก ๆ มีความสุข มีพื้นที่ทำกิจกรรมกันในครอบครัว พื้นที่ในการทำการบ้าน ได้นั่งเล่นพูดคุยกันอย่างมีความสุข ตนเองก็ดีใจ จึงทำให้มีแรงผลักดันและกำลังใจในการออกไปทำงานได้เป็นอย่างดี
ครอบครัวคุณชลาลัย บุตรหมัน มีสมาชิกครอบครัว 5 คน คือ สามี บุตรสาว 2 คน อายุ 7 ขวบและ 5 ขวบ รวมถึง บุตรชาย 1 คน อายุราว 1 ขวบ คุณชลาลัยประกอบอาชีพรับจ้างขายของชำ มีรายได้เดือนละ 7,500 บาท สามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 5,000 บาท รายได้ของครอบครัวยังไม่สามารถเก็บออมเพื่อที่อยู่อาศัยได้
ที่อยู่อาศัยปัจจุบันมีทรุดโทรมอย่างมากเพราะทำจากไม้ และจากไม้สานไม่เป็นสัดส่วน บริเวณห้องน้ำมีรูจากการผุผังที่คนนอกสามารถมองเข้ามาได้ ยิ่งทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อคนในครอบครัว
มูลนิธิที่อาศัย ประเทศไทย จึงเห็นว่าครอบครัวของคุณชลาลัยควรได้รับความช่วยเหลือทางด้านที่อยู่อาศัย เนื่องจากบุตรสาวทั้งสองคน กำลังเข้าสู่ช่วงวัยสาว ความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตภายในบ้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มูลนิธิฯ เล็งเห็น
ที่ผ่านมามูลนิธิฯ พยายามระดมทุนจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากผลกระทบไวรัส Covid-19 ทำให้กิจกรรมสร้างบ้าน และเงินบริจาคถูกยกเลิกทั้งหมด ทำให้จากเดิมบ้านคุณชลาลัยมีกำหนดการสร้างตั้งแต่ปลายปี 2562 จนวันนี้ก็ยังไม่ได้สร้าง เราในฐานะเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มุ่งมุ่นดำเนินงานเพื่อการสร้างที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยให้กับครอบครัวที่ยากไร้ในประเทศไทยการรักษาพันธสัญญา และเร่งดำเนินการให้ได้ตามสัญญา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จึงขอชักชวนทุกคนมาร่วมสร้างบ้านของครอบครัวคุณชลาลัย เพราะ
1.บ้านไม้สานหลังนี้มีความชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ไม้เริ่มผุพังมากขึ้นเรื่อยๆ ใบจากสานที่นำมาทำเป็นผนังของบ้านมีรูจากการชำรุด เมื่อฝนตกน้ำจะสาดเข้าบ้าน
2.เรื่องความปลอดภัยของลูกสาวทั้งสองของคุณชลาลัยที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยสาว เกรงว่าหากทิ้งให้อยู่ในบ้านเพียงตามลำพังจะเกิดความไม่ปลอดภัยของลูกๆ เพราะผนังของตัวบ้านมีรูที่คนนอกสามารถมองเห็นเข้ามาได้ และความไม่แข็งแรงของบ้านที่อาจจะไม่ได้ช่วยให้อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย
3.รายได้ของครอบครัวที่น้อยไม่เพียงพอต่อการเก็บออมได้นั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของคุณชลาลัยต้องอาศัยอยู่บ้านที่ไม่มั่นคงแข็งแรง และไม่ถูกสุขอนามัย
ภาพประกอบ : ห้องน้ำที่ไม่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มีเด็กหญิงและเด็กชาย
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
- จัดเตรียมพื้นที่และเตรียมงานสำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัย
- ดำเนินการก่อสร้างบ้านตามาตรฐานของมูลนิธิฯ โดยมีการร่วม “ลงแรง” จากอาสาสมัครและเจ้าของบ้าน
- ทำการตรวจรับ และส่งมอบโครงการระหว่างมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยและเจ้าของบ้าน
- จัดทำรายงานสรุปโครงการ พร้อมดำเนินการติดตามและประเมินผล
ภาพประกอบ : ฝนสามารถสาดเข้าบ้านได้
ประโยชน์ของโครงการ
- ผู้ยากไร้ได้รับที่อยู่อาศัย ที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยเฉพาะในวิกฤติเช่นนี้
- เจ้าของบ้านที่ได้รับมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- คนในครอบครัวมีคลอดปลอดภัยจากการได้รับที่อยู่อาศัย
ภาพประกอบ : ตัวอย่างผลงานการสร้างบ้านของมูลนิธิ
เจ้าของโครงการ
สร้างบ้านให้ครอบครัวชลาลัย
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบสังคมไทยในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยนั้น มีปัญหาในด้านการระดมทุนนั้นล่าช้าจากการได้รับเงินสนับสนุนโครงการของผู้บริจาคต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่ต่างโดนผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 นี้ทั้งสิ้น ทำให้บ้านคุณชลาลัยก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกกิจกรรมการระดมทุนและสร้างบ้านให้กับครอบครัวของคุณชลาลัย แต่ด้วยการสนับสนุนและความตั้งใจในการช่วยเหลือพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ ของทางเพจเทใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็มในการช่วยเหลือในการระดมทุนให้กับทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยในครั้งนี้ โดยทางมูลนิธิฯ ได้เริ่มการดำเนินงานทันที หลังจากได้มีการระดมทุนอีกครั้ง โดยเริ่มจากการลงสำรวจพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างของครอบครัวคุณชลาลัยอีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างบ้าน และการช่วย ลงแรง เล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณชลาลัยในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และผู้รับเหมาในการก่อสร้างบ้านของตนเอง ทั้งนี้จึงได้มีการดำเนินงานก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ และลุล่วงไปด้วยดี
ความประทับใจของคุณชลาลัย
คุณชลาลัย บุตรหมัน (ซันมา) อายุ 47 ปี เป็นคนจังหวัดกระบี่ ซึ่งอยู่อาศัยอยู่บ้านในบ้านที่ทรุดโทรม มีอาชีพรับจ้างขายของชำกับพี่สาวที่เปิดร้านอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงามาเป็นระยะเวลา 30 กว่าปีกว่า และมีความหวังที่อยากจะมีบ้านเป็นของตนเองมาก เพื่อให้ลูก ๆ ได้อยู่อย่างสบายและปลอดภัยในอนาคต ทั้งนี้คุณชลาลัยยังได้เล่าว่า มีความประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวที่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย ในการสร้างบ้านให้ตน โดยก่อนหน้านี้สภาพความเป็นอยู่ของคุณชลาลัยนั้นสภาพที่อยู่อาศัยค่อนข้างยากลำบาก ตัวบ้านทรุดโทรมอย่างมากทั้งยังต้องกังวลในเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินและสุขภาพ ร่างกายของตนเองด้วย รวมทั้งลูก ๆ ที่ยังเล็กทั้ง 3 คน ได้แก่ เด็กหญิงณัฐนันท์ อายุ 12 ปี เด็กหญิงชานันท์ อายุ 10 ปี และเด็กชายณัฐภัทร์ อายุ 4 ปี ซึ่งคืนไหนที่มีพายุฝนเข้ามา
คุณชลาลัยจะยิ่งมีความกังวลเป็นอย่างมาก ในขณะที่ระหว่างนอนหลับ ถึงหลับก็หลับไม่เต็มอิ่ม เพราะด้วยสภาพบ้านและความเป็นอยู่ที่ไม่มั่นคงและปลอดภัยใด ๆ ทำให้คุณชลาลัยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือที่อยู่อาศัยนี้กับมูลนิธิฯ โดยการประชาสัมพันธ์ของผู้นำชุมชนและรอคอยโอกาสนั้นอย่างมีความหวัง เกือบ 3 ปีที่คุณชลาลัยรอคอย และก็สมหวัง เมื่อมีเจ้าหน้าที่ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ได้ติดต่อเข้ามาว่าได้รับการช่วยเหลือ คุณชลาลัยกล่าวว่าเป็นการรอคอยที่มีความรู้สึกยาวนานมากแต่คุ้มค่ามาก ๆ เช่นกัน ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบในหลายพื้นที่ทำให้การได้สร้างบ้านต้องหยุด และล่าช้าลงไปจนทำให้คุณชลาลัยมีความกังวล แต่ด้วยพลังศรัทธากับแรงสนับสนุนของผู้บริจาคและความมุ่งมั่น ตั้งใจของมูลนิธิฯ ที่ต้องดำเนินการสร้างบ้านให้กับครอบครัวของคุณชลาลัยไว้นั้นเป็นไปได้ตามวัตถุประสงค์ ทำให้โครงการนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี คุณชลาลัยเองมีความรู้สึกที่ดีใจมาก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ลูก ๆ เองก็ดูมีความสุขมากจากการที่ได้บ้านหลังนี้ ซึ่งทำให้มีพื้นที่ในการพักผ่อน และปลอดภัยที่จะวิ่งเล่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าเป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็มีความพอเพียงพอที่จะสร้างความสุขในการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งนี้ยังส่งผลให้มีพลังชีวิตและเรี่ยวแรงในการออกไปทำงาน คุณชลาลัย กล่าวขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ หน่วยงานอย่างยิ่งที่ได้ช่วยกันสนับสนุนบ้านหลังนี้ให้ซึ่งเป็นความหวังเดียวที่จะมีบ้านที่อยู่อย่างมั่นคงและปลอดภัย เพราะถ้าด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองนั้นคงไม่มีโอกาสนี้แน่นอน คุณชลาลัยได้ทิ้งท้ายกล่าวไว้ว่า อยากให้โครงการดี ๆ แบบนี้มีต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีผู้ด้อยโอกาสอีกจำนวนมาก ในหลายพื้นที่ของสังคมไทยที่ยังรอคอยความหวังในการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง, แข็งแรงและปลอดภัยอยู่
ภาพประกอบ
การดำเนินการสร้างบ้านทุก ๆ หลังนั้นทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทยปลูกสร้างนั้นจะรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการสร้างให้กับผู้บริจาคตลอด เพื่อแจ้งถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งสภาพแวดล้อม รวมถึงการทำงานของผู้รับเหมาโดยจะดูแลถึงความปลอดภัย ความแข็งแรง ของวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้นั้นให้มีมาตราฐาน ในการนำมาก่อสร้างบ้าน โดยจะทำให้ออกมาอย่างดีที่สุด ทีมเจ้าหน้าที่จะทำบันทึกและรายงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มวางแผนดำเนิน ตลอดจนการก่อสร้างให้ตรงตามแบบและแผนระยะเวลาที่ตั้งไว้รวมถึงงบประมาณที่นำมาใช้ไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ปลอดภัยโดยผู้อยู่อาศัยที่ได้รับบ้านจากทางมูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทยนั้น จะได้อยู่อาศัยได้อย่างยาวนานและอย่างยั่งยืน ตลอดไป
ภาพของความอบอุ่นในครอบครัวคุณชลาลัยเมื่อกลับมาบ้านแล้ว ได้พักผ่อนอย่างสบายใจ จากการที่ได้มีเวลาอยู่อาศัยกับครอบครัวในพื้นที่ที่มั่นคงและปลอดภัย ทั้งยังได้เห็นลูก ๆ มีความสุข มีพื้นที่ทำกิจกรรมกันในครอบครัว พื้นที่ในการทำการบ้าน ได้นั่งเล่นพูดคุยกันอย่างมีความสุข ตนเองก็ดีใจ จึงทำให้มีแรงผลักดันและกำลังใจในการออกไปทำงานได้เป็นอย่างดี
แผนการใช้เงิน
รายการ | บาท |
1.งานโครงสร้าง เสาฐานราก คาน พื้น | 43,000 |
2.งานโครงหลังคา | 38,000 |
3.งานประตูหน้าต่าง | 38,000 |
4.งานผนัง(อิฐบล็อกพร้อมฉาบ) | 30,000 |
5.งานไฟฟ้า | 8,000 |
6.งานประปา สุขาภิบาล | 5,000 |
7.งานกระเบื้องปูพื้น | 8,000 |
8.ค่าแรงช่างทั้งหมด | 80,000 |
9.ค่าดำเนินงานเทใจดอทคอม 10% (ค่าระบบออนไลน์ ต้นทุนค่าธรรมเนียมธนาคารและ payment gateway ค่าคัดกรองโครงการ ตรวจสอบ ติดตาม วัดผล และรายงานความคืบหน้า) | 25,000 |
รวม | 275,000 |