project เด็กและเยาวชน

สนามเด็กเล่นทางการเงินเพื่อเด็กไทย

เพราะความรู้ทางการเงินสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงและต่อยอดให้ชีวิตเราดีขึ้น พวกเรา W Academy จึงอยากชวนทุกคนร่วมกันมอบโอกาสและผลักดันให้น้องๆ ในโรงเรียนขยายโอกาสทั้ง 20 คน ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยความรู้ทางการเงิน

ระยะเวลาโครงการ 8 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ กรุงเทพและปริมณฑล

ยอดบริจาคขณะนี้

17,050 บาท

เป้าหมาย

30,000 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 57%
จำนวนผู้บริจาค 9

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

สอนความรู้ด้านการเงินให้เด็กนักเรียนวันดวงแข 18 คน

20 มกราคม 2020

ทีมงาน W Academy เราได้เข้าไปสอนน้องๆ โรงเรียนขยายโอกาสที่วัดดวงแข เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเงินจำนวน 8 หัวข้อใหญ่ เรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ จะจัดการสอนเป็นเวลาทั้งหมด 16 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 18 คน

กิจกรรมเสริสร้างพัฒนาการทางด้านทักษะการออม การวางแผนการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการรู้จักกับสินทรัพย์ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ เงินฝาก กองทุน ผ่านเกมส์จำลองเสมือนจริง มีการจดรายรับรายจ่ายประจำสัปดาห์เพื่อมาประเมินว่าหากมีของสักชิ้นนึงจะต้องใช้เวลาเก็บออมนานเท่าไหร่ และจำนวนไหนถึงพอเหมาะกับการออม

ภาพกิจกรรม



ก่อนที่จะเริ่มการเรียนรู้ทางเราได้มีการจัดแบบทดสอบความรู้ (pre-test) กับน้องๆ ก่อนการเรียนน้องๆ ได้มีความรู้เป็นทุนเดิมอยู่เท่าไหร่และหลังจากเรียนรู้จบไปแล้ว มีการพัฒนาด้านไหนบ้าง และหลังจากที่ได้ทำการทดสอบนั้น น้องๆ ได้มีพัฒนาการเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ตัวพฤติกรรมนั้นอาจจะต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการปฏิบัติและทำซ้ำเพื่อให้เกิดความเคยชิน

ความประทับใจจากผู้ร่วมกิจกรรม


หลังจากเรียนรู้จบแล้ว น้องๆ ได้บอกความรู้สึกว่า “เป็นคลาสเรียนที่สนุกมากเหมือนไม่ได้เรียน แต่มาเล่นมากกว่า อยากที่จะเข้าร่วมคลาสอีกหากมีความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ ได้เปลี่ยนความคิดที่ว่าการเงินเป็นเรื่องยาก จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด”

ส่วนทีมอาจารย์ก็ได้เห็นว่า "จริงๆ เรื่องนี้มีความสำคัญและหากเป็นไปได้อยากให้มีผู้จัดการเรียนการสอนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และถ้ามีโอกาสอยากให้กลับมาสอนอีกครั้ง"

อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

พวกเราเชื่อว่าความรู้ทางการเงินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะทำงานในสาขาอาชีพใด

ความรู้ทางการเงินนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราบริหารและต่อยอดความมั่งคั่งของตนเอง

ประเทศของเรายังขาดความรู้ทางด้านการเงินซึ่งจริงๆแล้วความรู้นี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อการพัฒนาตนเองและพัฒนาประเทศชาติของเรา อ้างอิงจากผลสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยและ OECD ประเทศไทยได้คะแนนในด้านความรู้ทางการเงินเพียง 56% (ค่าเฉลี่ย 66%) เป็นอันดับที่ 27 จาก 30 ประเทศที่เข้าร่วมการสำรวจ เราจะเห็นได้ว่าเรายังห่างจากค่าเฉลี่ยอีกมากและพวกเราควรให้ความสนใจในเรื่องนี้และมอบโอกาสให้กับน้องๆตั้งแต่ยังเด็กเพื่อมาพัฒนาประเทศชาติในอนาคต


จากการที่พวกเราได้เข้าไปสอนในโรงเรียนต่างๆมาช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้พวกเราได้รู้เลยว่าความรู้ทางด้านการเงินสำหรับเยาวชนไทยนั้นยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก และถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกขยายไปในวงกว้าง สิ่งที่เราตั้งใจทำมาอาจจะไม่สามารถสร้างผลกระทบระดับประเทศได้ พวกเรามองว่าเด็กทุกคนควรได้รับโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และเราพร้อมที่จะมอบโอกาสให้แก่เด็กๆทุกชนชั้น เพื่อจะทำให้ทุกคนสามารถมีสุขภาพทางการเงินที่ดีได้

พวกเรามีความตั้งใจที่จะจัดการสอนความรู้ทางการเงินให้แก่น้องๆ อายุ 10 – 13 ปี ในโรงเรียนขยายโอกาสผ่านหลักสูตร “Financial Playground” ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้การเงินขั้นพื้นฐานแต่ทรงพลัง ตลอดระยะเวลา 16 ชั่วโมง หรือประมาณ 4 สัปดาห์ ที่จะทำให้น้องๆ มีทัศนคติ มุมมอง และวินัยทางการเงินที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในระยะยาวยิ่งไปกว่านั้น สามารถแบ่งปันความรู้เหล่านี้ให้แก่เพื่อนๆ ครอบครัว และชุมชน หลักสูตร Financial Playground จะเปลี่ยนห้องเรียนทั่วๆ ไปให้กลายเป็นสนามเด็กเล่น!

ด้วยการเรียนรู้แบบ Activity-based เพราะเราเชื่อว่าการท่องจำในตำราไม่สามารถดึงดูดความสนใจ และถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กในวัยนี้ได้ กว่า 80% ของการสอน เด็กๆจะได้ลองเล่นและลงมือทำผ่านเกม กิจกรรม จนถึงจำลองตัวเองว่าถ้าเค้านั้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าจะบริหารสิ่งที่เค้ามีอยู่ยังไงให้เหมาะสมกับตัวเค้าได้ดีที่สุด

ที่ผ่านมา W Academy ได้ทำโครงการ “Financial Playground สนามเด็กเล่นทางการเงินเพื่อน้องๆ” ให้กับโรงเรียนขยายโอกาสทั้งหมด 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนราชวินิตบางแค (ผ่านโครงการ Saturday School Season 7) โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร และโรงเรียนวัดเกาะสุวรรณาราม รวมถึงโรงเรียนทั่วไปอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนไผทอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นต้น ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม จากทั้งทางโรงเรียน ผู้ปกครอง และตัวนักเรียนเอง

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ

  1. ติดต่อโรงเรียนเพื่อเสนอโครงการและเนื้อหาที่จะเข้าไปทำการสอน 1 โรงเรียน
  2. จัดตารางการเรียนการสอนร่วมกับทางโรงเรียน
  3. ศึกษากลุ่มนักเรียน ในแง่ของพื้นฐานทางวิชาการ สภาพแวดล้อม ข้อจำกัดทางสุขภาพ หรือข้อจำกัดอื่นๆจากทางโรงเรียนหรือผู้ปกครอง
  4. พัฒนาและปรับปรุงเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละกลุ่ม
  5. จัดเตรียมอุปกรณ์และสื่อการสอน
  6. ดำเนินการสอนในแต่ละโรงเรียน
  7. ประเมินและติดตามผลหลังการสอนว่า น้องได้รับความรู้และนำไปต่อยอดอย่างไรบ้าง

หลังจากที่ทำการสอนเสร็จในแต่ละครั้ง ทางทีมงานจะประชุมเพื่อพัฒนาและปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับกลุ่มนักเรียนที่สุด และแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อประเมินผลการสอนของคุณครูและการดำเนินงานของทีมงานที่เกี่ยวข้อง 

ประโยชน์ของโครงการ

  1. ขยายโอกาสและสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้ด้านการเงินให้แก่เยาวชน
  2. ให้เด็กๆ เข้าใจว่าการเงินไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญ และความรู้ทางการเงินจะมีประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้างอย่างไร
  3. ปลูกฝังและเสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก ผ่านการวางแผนด้วยตนเองและนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ทันที
  4. เรียนรู้วิธีการสร้างและประกอบธุรกิจเบื้องต้น เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship)
  5. พัฒนาหลักสูตรต้นแบบที่เหมาะสมกับโรงเรียนขยายโอกาส เพื่อขยายการเรียนรู้ไปในพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย


ตัวอย่างผลการดำเนินการ


สมาชิกภายในทีม

1. นาย ทศพรรษ ชุณหรัศมิ์

2. นาย ณัชพล หาทรัพย์

3. นาย ศุภฤกษ์ ปิติธรรมภรณ์

4. นาย กัมปนาท ชัยรัตน์

5. นางสาว ณัฐณิชา สุขณะล้ำ

6. นาย ณพชร์ รัตนะโกสัย

7. นาย จารุ วิมลนิตย์

8. นาย นนทกานต์ นำเกียรติสกุล

9. นาย นิรันด์ บัตรา

10. นาย พัชญา จันทร์สุขโข 

11. นาย วรุฒ วิชาญยุทธนากูล

12. นางสาว ดลหทัย 


สอนความรู้ด้านการเงินให้เด็กนักเรียนวันดวงแข 18 คน

20 มกราคม 2020

ทีมงาน W Academy เราได้เข้าไปสอนน้องๆ โรงเรียนขยายโอกาสที่วัดดวงแข เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเงินจำนวน 8 หัวข้อใหญ่ เรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ จะจัดการสอนเป็นเวลาทั้งหมด 16 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 18 คน

กิจกรรมเสริสร้างพัฒนาการทางด้านทักษะการออม การวางแผนการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการรู้จักกับสินทรัพย์ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ เงินฝาก กองทุน ผ่านเกมส์จำลองเสมือนจริง มีการจดรายรับรายจ่ายประจำสัปดาห์เพื่อมาประเมินว่าหากมีของสักชิ้นนึงจะต้องใช้เวลาเก็บออมนานเท่าไหร่ และจำนวนไหนถึงพอเหมาะกับการออม

ภาพกิจกรรม



ก่อนที่จะเริ่มการเรียนรู้ทางเราได้มีการจัดแบบทดสอบความรู้ (pre-test) กับน้องๆ ก่อนการเรียนน้องๆ ได้มีความรู้เป็นทุนเดิมอยู่เท่าไหร่และหลังจากเรียนรู้จบไปแล้ว มีการพัฒนาด้านไหนบ้าง และหลังจากที่ได้ทำการทดสอบนั้น น้องๆ ได้มีพัฒนาการเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ตัวพฤติกรรมนั้นอาจจะต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการปฏิบัติและทำซ้ำเพื่อให้เกิดความเคยชิน

ความประทับใจจากผู้ร่วมกิจกรรม


หลังจากเรียนรู้จบแล้ว น้องๆ ได้บอกความรู้สึกว่า “เป็นคลาสเรียนที่สนุกมากเหมือนไม่ได้เรียน แต่มาเล่นมากกว่า อยากที่จะเข้าร่วมคลาสอีกหากมีความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ ได้เปลี่ยนความคิดที่ว่าการเงินเป็นเรื่องยาก จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด”

ส่วนทีมอาจารย์ก็ได้เห็นว่า "จริงๆ เรื่องนี้มีความสำคัญและหากเป็นไปได้อยากให้มีผู้จัดการเรียนการสอนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และถ้ามีโอกาสอยากให้กลับมาสอนอีกครั้ง"

แผนการใช้เงิน


รายการจำนวนจำนวน (บาท)
1. ค่าครูผู้สอน 1 คนต่อห้องเรียน 16 ชั่วโมง  8,000
2. ค่าครูผู้ช่วย 1 – 2 คนต่อห้องเรียน 28 ชั่วโมง 7,000
3. ค่าอุปกรณ์และสื่อการสอน และค่าดำเนินการ1 ชุด 15,000
สรุปค่าใช้จ่ายต่อ 1 ห้องเรียน
30,000

*เปิดรับห้องละ 20 คน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ  1,500 บาท

(รวมค่าใช้จ่ายในการระดมทุนของเทใจเป็นเงินโดยประมาณ 3,000 บาท)