Better Me เพื่อชีวิตที่ดีของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา
ร่วมกันมอบโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะให้ผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา 10 คน ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีโอกาสในอนาคตมากขึ้น
ระยะเวลาโครงการ 6 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ กรุงเทพ
ยอดบริจาคขณะนี้
59,904 บาทเป้าหมาย
59,300 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
กิจกรรมพัฒนาตนเองให้ผู้หญิง ครั้งที่ 2
ผู้หญิงที่ได้เข้าเรียนในห้องเรียนเทใจทั้ง 10 คน ผ่านการเรียนหลักสูตรที่ 1 และเริ่มเรียนต่อในหลักสูตรพัฒนาตนเอง ครั้งที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- จบการศึกษาระดับมัธยมการศึกษาตอนต้น และตอนปลาย
- ส้วนใหญ่ออกจากโรงเรียนก่อนเวลาอันสมควรเนื่องจากครอบครัวไม่สามารถสนับสนุนได้
- ส่วนใหญ่ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม
- อายุต่ำกว่า 17 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพ
- เป็นแรงงานนอกระบบ ทำงานในสายงานบริการ ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองและไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจ้างงาน
- มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 10,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
- มีชั่วโมงการทำงานอยู่ที่ 56 -65 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- มีหน้าที่ในการส่งเสียและเป็นหลักในการเลี้ยงดูครอบครัว
- นักเรียนส่งเงินให้ที่บ้านอย่างน้อย 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน
- ส่วนใหญ่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายเนื่องจากเป็นบุคคลเดียวที่สามารถหารายได้ให้ครอบครัว
- ไม่มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ
- ไม่เคยผ่านกระบวนการในการทำกิจกรรมในลักษณะนี้มาก่อน
หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพของตนเองในครั้งนี้ มีการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของตนเอง การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ การพัฒนาบุคลิกภาพ การเสริมสร้างความมั่นใจ และความรู้พื้นฐานด้านต่างๆ เช่น ทักษะชีวิต ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานกฎหมายแรงงานและการจ้างงาน สิทธิด้านต่างๆ การวางแผนอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนทางการเงิน เป็นต้น
ภาพกิจกรรมหลักสูตรพัฒนาตนเอง ครั้งที่ 2
แผนการเรียนของผู้หญิงในหลักสูตรที่ 2
การเรียนภาษาอังกฤษ
การเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของตัวเอง พร้อมวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
วาดภาพของตนเอง
แสดงภาพวาดของตน ข้อเสียและการปรับปรุงตนเองในทางที่ดีขึ้น
ร่วมแบ่งปันความคิดของตนเองและเพื่อนร่วมห้อง
สร้างเป้าหมายให้กับตนเอง ผ่าน Smart flower planing
Flower Planing ของนักเรียนห้องเทใจ
ความคิดเห็นหลังเข้าร่วมโครงการ
หลังจากการเข้าร่วมกิจกรรม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำความรู้จากการเรียนไปปรับใช้ และทำให้พวกเธอสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น จำนวน 2 คน
คุณเอ้ เงินเดือนเพิ่มขึ้น 8%
“รายได้เพิ่มมากขึ้น ตรงนี้มีส่วนมาจากการมาเรียนที่มูลนิธิฯ งานของเราต้องใช้ภาษาอังกฤษในการอ่านเพราะเป็น QA ก่อนหน้านี้อ่านไม่ได้ พอมาเรียนทำให้เราสะกดได้ อ่านได้ มีความสามารถเพิ่มขึ้น ตอนทำกิจกรรมได้มีโอกาสนำเสนอผลงาน พอไปทำงานทำให้เรากล้าพูดกับเจ้านายมากขึ้น แต่ก่อนเราทำงานเสร็จต้องไปบอกหัวหน้าให้หัวหน้าไปรายงานให้ ตอนนี้หัวหน้าไม่อยู่เราสามารถนำเสนองานได้ด้วยตัวเอง มีความกล้ามากขึ้น ดีใจที่ทำได้”
แวว เงินเดือนเพิ่มขึ้น 6%
“มูลนิธิฯ มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เราได้รับเงินเดือนมากขึ้น สอนให้เราพัฒนาตัวเอง การสื่อสารภาษาอังกฤษ การอ่านดีขึ้น เราเอามาใช้กับงานเพราะต้องอ่านออเดอร์และเมนูเป็นภาษาอังกฤษ เรามีความกล้ามากขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่อยากคุยกับลูกค้า ไม่กล้าพูดเพราะเราพูดเราสื่อสารไม่ได้ ตอนนี้กล้าขึ้นมาก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับทักษะชีวิต มีความรู้เกี่ยวกับการจัดระบบในชีวิต”
“ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเก็บเงินไว้ที่ตัวเองเลย มีเท่าไหร่ ส่งให้ที่บ้านหมด ทุกบาททุกสตางค์ พอเราเจ็บป่วยหรือต้องการใช้เงิน เราไม่สามารถขอคืนมาจากที่บ้านได้ เราต้องหยิบยืมคนอื่น ที่มูลนิธิแนะนำให้เราแบ่งเก็บเพื่อที่จะมีใช้ยามฉุกเฉินและเพื่ออนาคตของเรา เรามีเป้าหมายมากขึ้น” นุ อายุ 26 ปี
“เคยคิดว่าถ้ามีลูก ก็จะให้ลูกมาทำอาชีพแม่บ้านเหมือนเรา พอมาเรียนที่มูลนิธิ เราคิดอยากให้ลูกมีการศึกษา มีความรู้และมีอนาคตที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ เรามีทางเลือกและช่องทางในการดำเนินชีวิตมากขึ้น” ดวง อายุ 22 ปี
“พี่ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด พี่ไม่เคยรู้เลยว่าพี่มีสิทธิได้หยุดงานอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ จนกระทั่งพี่มาทำกิจกรรมที่มูลนิธิ ที่นี่ทำให้เราสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานที่เราควรได้รับ”
เหล่านี้เป็น Feedback ของผู้หญิงที่เข้ารับการฝึกอบรมโครงการ Better Me ของมูลนิธิ
Better Me หลักสูตรพัฒนาตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เนื้อหากิจกรรมคลอบคลุมในการพัฒนาทักษะในหลายๆ ด้าน
ใครได้รับประโยชน์
- กลุ่มผู้หญิง อายุระหว่าง 18-50 ปีที่ไม่มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปออกจากโรงเรียนก่อนเวลาอันสมควร
- เป็นหลักในการรับภาระรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวเพียงลำพัง
- เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
- ส่วนใหญ่ทำงานในสายงานบริการเช่น พี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้าน นวดแผนโบราณ พนักงานขาย
ได้รับประโยชน์อย่างไร
- ได้รับความรู้พื้นฐานด้านต่างๆ เช่น ทักษะชีวิต ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานกฎหมายแรงงานและการจ้างงาน สิทธิด้านต่างๆ การวางแผนอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนทางการเงิน เป็นต้น
- ได้รับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เช่น การเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของตนเอง การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ การพัฒนาบุคลิกภาพ การเสริมสร้างความมั่นใจ เป็นต้น
- ทักษะทางภาษาอังกฤษ
- เพิ่มโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ที่ดีกว่าเดิม
- เสริมสร้างความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง และการดำรงชีวิต
- มีเมนทอร์ที่ปรึกษาเป็นของตนเอง สำหรับพูดคุยเพื่อเสริมสร้างแรงบัลดาลใจ ให้กำลังใจและสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
วิธีดำเนินกิจกรรม
- กิจกรรมการเรียนรู้ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง หรือ 1 ครั้ง ต่อ 1 สัปดาห์ ติดต่อกันเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือน
- การให้คำปรึกษาจะมีระยะเวลา 1-2 ชั่วโมงต่อเดือนที่ผู้หญิงจะได้ใช้เวลาร่วมกับเมนทอร์หรือโค้ชของตนเอง
- กิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นภายในสำนักงานมูลนิธิกลุ่มปรารถนาดี ซอยสุขุมวิท 52
- ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
- จัดกิจกรรมทันทีที่ครบกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอย่างน้อย 10 คน ทีมงานจะเปิดเป็น 1 ห้องเรียน จนครบกำหนด 3 เดือน เป้าหมายโครงการต้องการสนับสนุนผู้หญิง จำนวน 120 คน ภายในระยะเวลา 1 ปี (2562)
- ทำรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการ และนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนากิจกรรมให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเป้าหมาย
ผู้หญิงเหล่านี้จะได้รับประโยชน์อย่างไร
- มีความสุข มีความมั่นใจในตนเองและสามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ในโอกาสต่อๆไป
- มีทักษะทางการศึกษา ทักษะทางภาษา ทักษะทางสังคม เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ
- เป็นที่พึ่งให้กับครอบครัว โดยความรู้ที่ได้ สามารถนำไปสอนลูกและคนในครอบครัวอีกด้วย
- มีทางเลือกในการประกอบอาชีพ รายได้เพิ่มขึ้น มีเงื่อนไขในการทำงานที่ดีขึ้น
- นายจ้างและสังคมจะมีผู้หญิงที่มีความรู้และศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
- ไม่ตกเป็นเหยื่อของนายจ้างหรือมิจฉาชีพ
- สามารถปกป้องสิทธิของตนเอง และสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ในสังคมได้
สมาชิกภายในทีม
นาวสาวสโรชินี อัญญเวชสัมฤทธิ์ (พี่เบียร์) พัฒนาหลักสูตรและวิทยากร
นางสาวปนัดดา งามสมพล (พี่ปิ๋ม) ประสานงานโครงการและผู้ช่วยวิทยากร
นางสาวญาดา ช่วยชำแนก (พี่ญาดา) ประสานงานโครงการ
นางสาวพิกุล วาจาดี (พี่ดวง) ประสานงานโครงการ
ติดต่อทีมงาน staff@pratthanadee.org โทร 02 – 331 4731 มูลนิธิปิดทำการทุกวันศุกร์
ติดตามความคืบหน้าของการดำเนินกิจกรรมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/Pratthanadee.Foundation/
Instagram: Pratthanadee
Twitter: PratthanadeeOrg
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UC6Of-Gr8P0W-J24cZxDLNdA/featured
Website: https://pratthanadee.org/
Better Me จัดกิจกรรมพัฒนาตนเองให้ผู้หญิง 10 คน
โครงการ Better Me เพื่อชีวิตที่ดีของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ให้ผู้หญิงเข้าร่วมโครงการในห้องเทใจ จำนวน 10 คน มีอายุระหว่าง 22 - 43 ปี มีสัญชาติไทย พม่า และลาว ประกอบอาชีพ พี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้าน นวดแผนโบราณ พนักงานขาย เป็นต้น ในกิจกรรม ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ภาษาอังกฤษ หลักสูตรพัฒนาตนเอง และเพื่อนคู่คิด
โครงการ Better me แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้
หลักสูตรการพัฒนาตนเอง 1 (ระยะเวลา 3 เดือน)
- การประเมินตนเอง
- การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
- แผนการในอนาคต
- การวางแผนอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดการกับการเปลี่ยนแปลง
หลักสูตรการพัฒนาตนเอง 2 (ระยะเวลา 3 เดือน)
- สิทธิของเราเรียกร้องได้
- ผู้หญิงรอบรู้เรื่องเงิน
- งานที่ใช่ไม่ไกลเกินเอื้อม
- สร้างความประทับใจจากบุคลิกภาพที่ดี
หลักสูตรการพัฒนาตนเอง 3 (ระยะเวลา 3 เดือน)
- เทคนิคการเจรจาต่อรอง
- การดูแลสุขภาพพื้นฐาน
- เริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไร
ภาพกิจกรรมหลักสูตรพัฒนาตนเอง ครั้งที่ 1
แผนการเรียนของผู้หญิง ในหลักสูตร 1
ขอต้อนรับนักเรียนใหม่ห้องเรียนเทใจ
กิจกรรม Self Assessment ให้เข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายของตนเอง
เรียนรู้จุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง นำไปสู่แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง รวมถึงวางแผนให้บรรลุเป้าหมายของตนเองได้
กิจกรรม Dealing with Situations รับมือกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ และเรียนรู้วิธีการจัดการ
เติมพลังใจซึ่งกันและกัน
การประเมินตนเองจากผู้เข้าร่วมหลักสูตร 1 บางส่วน
มูลนิธิฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมบริจาคในการเล็งเห็นถึงการพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษาให้ได้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
กิจกรรมพัฒนาตนเองให้ผู้หญิง ครั้งที่ 2
ผู้หญิงที่ได้เข้าเรียนในห้องเรียนเทใจทั้ง 10 คน ผ่านการเรียนหลักสูตรที่ 1 และเริ่มเรียนต่อในหลักสูตรพัฒนาตนเอง ครั้งที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- จบการศึกษาระดับมัธยมการศึกษาตอนต้น และตอนปลาย
- ส้วนใหญ่ออกจากโรงเรียนก่อนเวลาอันสมควรเนื่องจากครอบครัวไม่สามารถสนับสนุนได้
- ส่วนใหญ่ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม
- อายุต่ำกว่า 17 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพ
- เป็นแรงงานนอกระบบ ทำงานในสายงานบริการ ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองและไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจ้างงาน
- มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 10,000 - 15,000 บาทต่อเดือน
- มีชั่วโมงการทำงานอยู่ที่ 56 -65 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- มีหน้าที่ในการส่งเสียและเป็นหลักในการเลี้ยงดูครอบครัว
- นักเรียนส่งเงินให้ที่บ้านอย่างน้อย 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน
- ส่วนใหญ่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายเนื่องจากเป็นบุคคลเดียวที่สามารถหารายได้ให้ครอบครัว
- ไม่มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ
- ไม่เคยผ่านกระบวนการในการทำกิจกรรมในลักษณะนี้มาก่อน
หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพของตนเองในครั้งนี้ มีการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของตนเอง การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ การพัฒนาบุคลิกภาพ การเสริมสร้างความมั่นใจ และความรู้พื้นฐานด้านต่างๆ เช่น ทักษะชีวิต ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานกฎหมายแรงงานและการจ้างงาน สิทธิด้านต่างๆ การวางแผนอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนทางการเงิน เป็นต้น
ภาพกิจกรรมหลักสูตรพัฒนาตนเอง ครั้งที่ 2
แผนการเรียนของผู้หญิงในหลักสูตรที่ 2
การเรียนภาษาอังกฤษ
การเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของตัวเอง พร้อมวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
วาดภาพของตนเอง
แสดงภาพวาดของตน ข้อเสียและการปรับปรุงตนเองในทางที่ดีขึ้น
ร่วมแบ่งปันความคิดของตนเองและเพื่อนร่วมห้อง
สร้างเป้าหมายให้กับตนเอง ผ่าน Smart flower planing
Flower Planing ของนักเรียนห้องเทใจ
ความคิดเห็นหลังเข้าร่วมโครงการ
หลังจากการเข้าร่วมกิจกรรม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำความรู้จากการเรียนไปปรับใช้ และทำให้พวกเธอสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น จำนวน 2 คน
คุณเอ้ เงินเดือนเพิ่มขึ้น 8%
“รายได้เพิ่มมากขึ้น ตรงนี้มีส่วนมาจากการมาเรียนที่มูลนิธิฯ งานของเราต้องใช้ภาษาอังกฤษในการอ่านเพราะเป็น QA ก่อนหน้านี้อ่านไม่ได้ พอมาเรียนทำให้เราสะกดได้ อ่านได้ มีความสามารถเพิ่มขึ้น ตอนทำกิจกรรมได้มีโอกาสนำเสนอผลงาน พอไปทำงานทำให้เรากล้าพูดกับเจ้านายมากขึ้น แต่ก่อนเราทำงานเสร็จต้องไปบอกหัวหน้าให้หัวหน้าไปรายงานให้ ตอนนี้หัวหน้าไม่อยู่เราสามารถนำเสนองานได้ด้วยตัวเอง มีความกล้ามากขึ้น ดีใจที่ทำได้”
แวว เงินเดือนเพิ่มขึ้น 6%
“มูลนิธิฯ มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เราได้รับเงินเดือนมากขึ้น สอนให้เราพัฒนาตัวเอง การสื่อสารภาษาอังกฤษ การอ่านดีขึ้น เราเอามาใช้กับงานเพราะต้องอ่านออเดอร์และเมนูเป็นภาษาอังกฤษ เรามีความกล้ามากขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่อยากคุยกับลูกค้า ไม่กล้าพูดเพราะเราพูดเราสื่อสารไม่ได้ ตอนนี้กล้าขึ้นมาก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับทักษะชีวิต มีความรู้เกี่ยวกับการจัดระบบในชีวิต”
แผนการใช้เงิน
รายการ | หน่วย(คน) | บาท |
ค่าใช้จ่ายต่อนักเรียน 1 คน 5,930 บาท เพื่อดำเนินการต่อไปนี้
| 10 | 59,300 |
(รวมค่าใช้จ่ายในการระดมทุนของเทใจเป็นเงินโดยประมาณ 5,930 บาท)