เงินบริจาคของคุณจะร่วมจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในการดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และคนพิการ200ราย
โรงพยาบาลดอยเต่า เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง และมีเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 9 แห่ง เรามีผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจำนวน 163 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยติดบ้าน 101 คน และผู้ป่วยติดเตียง 62 คน ผู้ป่วยเหล่านี้มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น เตียงผู้ป่วย ที่นอนลม เครื่องผลิตออกซิเจน หรือรถเข็น ซึ่งมีราคาสูงและหลายครอบครัวไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ต้องพึ่งพาการยืมอุปกรณ์จากโรงพยาบาล ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ศูนย์ชีวาภิบาลโรงพยาบาลดอยเต่าจึงได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย และลดภาวะแทรกซ้อนจากการเจ็บป่วย รวมสนับสุนุนการซื้อเครื่องดูดเสมหะ 9 เครื่อง, ที่นอนลม 9 เครื่อง และเครื่องผลิตออกซิเจนไฟฟ้า 9 เครื่อง เพื่อช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการเจ็บป่วย และส่งผลให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น
โรงพยาบาลดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลชุมชน 30 เตียง มีเครือข่ายบริการสุขภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพจำนวน 9 แห่ง ผลการดำเนินงานกองทุน LTC (Long Term Care) ในปีงบประมาณ 2568 พบว่าผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนทุกสิทธิ ทุกกลุ่มอายุ ที่ได้รับบริการสาธารณสุขหรือได้รับบริการตามแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) จำนวน 163 คน เป็นกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านจำนวน 101 คน กลุ่มผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 62 คน ซึ่งในพื้นที่มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการจำนวนหนึ่งที่เจ็บป่วยและมีความจำเป็นต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อการดูแลสุขภาพ เช่น เตียงผู้ป่วย ที่นอนลม เครื่องผลิตออกซิเจน รถเข็น เป็นต้น ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ หรือครุภัณฑ์ทางการแพทย์เหล่านี้มีราคาค่อนข้างสูง บางครอบครัวไม่มีกำลังซื้อ จึงอาศัยการยืมอุปกรณ์จากโรงพยาบาลมาใช้ ซึ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย
ศูนย์ชีวาภิบาลโรงพยาบาลดอยเต่า ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการที่เจ็บป่วย จึงได้จัดทำโครงการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการขึ้น เพื่อให้มีวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการเจ็บป่วยได้ส่วนหนึ่ง ส่งผลให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการที่เจ็บป่วย ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น
ในการปรับปรุงโครงการ "สานพลังใจ" มีข้อเสนอแนะดังนี้: 1. เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่ายอาสาสมัคร: การประเมินความต้องการของชุมชน:ดำเนินการประเมินความต้องการอย่างละเอียดและเชิงรุกมากขึ้นภายในชุมชน อาจรวมถึงการให้ อสม. หรือนักสังคมสงเคราะห์เยี่ยมบ้านเพื่อระบุผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ แทนที่จะรอให้พวกเขาร้องขอ การฝึกอบรมอาสาสมัคร: ฝึกอบรมอาสาสมัครในชุมชนให้มากขึ้นเพื่อช่วยในการจัดจำหน่าย บำรุงรักษา และการใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน อาสาสมัครเหล่านี้ยังสามารถให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและระบุความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ได้ การสนับสนุนผู้ดูแลครอบครัว:จัดการฝึกอบรมและกลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ดูแลครอบครัว สิ่งนี้สามารถช่วยให้พวกเขาสามารถดูแลคนที่รักได้ดีขึ้น และระบุสัญญาณเริ่มต้นของภาวะแทรกซ้อน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการในการลดภาวะแทรกซ้อนจากการเจ็บป่วย
2. กระจายแหล่งเงินทุนและการจัดหาทรัพยากร การขอรับทุน:หาโอกาสขอรับทุนจากองค์กรการกุศล มูลนิธิ และโครงการของรัฐบาลอื่น ๆ ที่สนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ บริการสำหรับผู้พิการ หรือโครงการด้านสุขภาพในชนบท ความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม (CSR):ติดต่อองค์กรธุรกิจเพื่อขอการสนับสนุนจากโครงการ CSR บริษัทหลายแห่งมีโครงการที่สอดคล้องกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน การระดมทุนสาธารณะ:จัดแคมเปญสร้างความตระหนักรู้และการระดมทุนสาธารณะ ซึ่งอาจรวมถึงกิจกรรมในท้องถิ่น การระดมทุนออนไลน์ หรือความร่วมมือกับธุรกิจในท้องถิ่น โครงการรับบริจาคอุปกรณ์:จัดโครงการรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้งานแล้วจากบุคคลหรือสถานพยาบาลที่ไม่ต้องการแล้ว กำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับการตรวจสอบ ทำความสะอาด และซ่อมแซมก่อนการแจกจ่าย
3. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและบำรุงรักษาอุปกรณ์: ปัญหา:เอกสารระบุว่าอุปกรณ์ของโรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่เพียงพอและมีความจำเป็นต้องจัดทำทะเบียนวัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และประสานกับ รพ.สต. ในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการการยืมใช้วัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในการติดตามและบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางแก้ไข:ระบบคลังอุปกรณ์ส่วนกลาง:นำระบบการจัดการคลังอุปกรณ์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งมาใช้เพื่อติดตามอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมด รวมถึงตำแหน่ง สภาพ กำหนดการบำรุงรักษา และข้อมูลผู้ยืม ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญหายและรับรองการบำรุงรักษาที่เหมาะสม โปรแกรมการบำรุงรักษาและซ่อมแซมตามปกติ:กำหนดโปรแกรมการบำรุงรักษาและซ่อมแซมตามปกติสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมด ซึ่งอาจรวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรหรืออาสาสมัคร หรือการเป็นพันธมิตรกับช่างเทคนิคในท้องถิ่น สิ่งนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และรับรองว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ การฝึกอบรมและการศึกษาผู้ใช้:ให้คำแนะนำและการฝึกอบรมที่ชัดเจนแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลเกี่ยวกับวิธีการใช้อุปกรณ์ที่ยืมมาอย่างถูกต้องและดูแลรักษา ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายและรับรองการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ
4. เสริมสร้างความร่วมมือและการเข้าถึง: ปัญหา:แม้ว่าโครงการจะกล่าวถึงการประสานงานกับ รพ.สต. แต่อาจมีโอกาสในการสร้างความร่วมมือที่กว้างขึ้น แนวทางแก้ไข:ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน:สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้ให้บริการด้านสุขภาพอื่น ๆ เพื่อระบุผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือและประสานงานการส่งมอบบริการ แคมเปญสร้างความตระหนักรู้สาธารณะ:จัดแคมเปญสร้างความตระหนักรู้สาธารณะเกี่ยวกับบริการของโครงการและวิธีที่บุคคลสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งอาจรวมถึงสื่อท้องถิ่น การประชุมชุมชน และเอกสารข้อมูล
จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์ดูแลต่อเนื่องเพื่อชี้แจงเป้าหมายและแนวทางการดำเนินโครงการ
สำรวจข้อมูลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน และประเมินความต้องการวัสดุอุปกรณ์การแพทย์
ทำบัญชีรายการวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ต้องการขอรับการสนับสนุน
จัดหางบประมาณ
ติดตามประเมินผลการใช้วัสดุอุปกรณ์ของผู้ป่วย เพื่อปรับปรุงการให้บริการ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
เครื่องดูดเสมหะ | 9เครื่อง | 39,600.00 |
ที่นอนลม | 9ชิ้น | 34,650.00 |
เครื่องผลิตอ๊อกซิเจนไฟฟ้า | 9เครื่อง | 198,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 272,250.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 27,225.00 |
สถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม (สพบ.) ภายใต้มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ครอบคลุมมิติทางกาย จิต ปัญญา และสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมในชุมชน สพบ. ทำงานร่วมกับโรงพยาบาลชุมชนและศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง เพื่อเป็นกลไกกลางในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพในระดับอำเภอ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ท้องที่ ท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง สถาบันฯ ยังมีบทบาทในการพัฒนาต้นแบบชุมชนเข้มแข็ง และขยายผลแนวคิดการพัฒนาระบบสุขภาพองค์รวมไปทั่วประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้