cover_1

จิตวิทยาให้คำปรึกษาและบำบัด แก่เด็กและผู้ที่ได้รับบาดแผลภายใน (Trauma care) จังหวัดเชียงใหม่

Donations for the project will สนับสนุนโครงการ “จิตวิทยาให้คำปรึกษาและบำบัด to เด็กและผู้ที่ได้รับบาดแผลภายใน (Trauma care)”300คน

project succeeded
Successfully

Period of time

May 26, 2023 - Jun 30, 2024

Location

มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล Sop Mae Kha, Amphoe Hang Dong, Chiang Mai 50230มูลนิธิช่วยเหลือเด็กในจังหวัดเชียงใหม่ Chiang Mai

SDG Goals

GOOD HEALTH AND WELL-BEINGPARTNERSHIPS FOR THE GOALS

Beneficiary groups of the project

Youth
150คน
ประชาชนทั่วไป
150คน
Charitable Organization
60คน

ช่วยเด็กและบุคคลที่ได้รับบาดแผลภายในกว่า 300 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้าถึงคำปรึกษา การเยียวยา และบำบัดจากนักจิตวิทยาเชี่ยวชาญ เพื่อลดอัตราเสี่ยงการฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น

มูลนิธิเรดิออนฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงมานานกว่า 15 ปี เราทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาอาสาสมัครเพื่อดูแลสุขภาพจิตของเด็กเป็นรายครั้ง พบว่า เด็กในโครงการมีแนวโน้มทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตายลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี

นอกจากนี้โครงการตั้งใจเปิดพื้นที่ให้บุคคลภายนอกได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากแนวโน้มการฆ่าตัวตายในกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มคนทำงานในช่วงปี 2020-2022 มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทางมูลนิธิฯ จึงจำเป็นต่อการขอความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการเพื่อเริ่มต้นให้คนกลุ่มเสี่ยงในสังคมมากมายได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งไม่เป็นเพียงการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต แต่เป็นการช่วยชีวิตคนให้มีชีวิตต่อไปได้

Social issues

ปี 2020 ยูนิเซฟได้ทำการศึกษาในประเทศไทยเกี่ยวกับเด็กไทย พบผลที่น่ากังวลมากว่า

เด็กไทย 1 ใน 7 คน มีปัญหาสุขภาพจิต

ปี 2022 Global Schools Survey ทำการสำรวจพบว่า17.6% ของเยาวชนไทยคิดอยากฆ่าตัวตาย หรือ ทุก 10 นาที จะมีผู้ที่คิดฆ่าตัวตาย 1 คน

ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในอาเซียน จึงเห็นได้ว่าปัญหาสุขภาพจิตจนนำไปสู่การฆ่าตัวตายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนรวยหรือคนจน เด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกชุมชน

ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องร่วมกันช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่น โดยเฉพาะเด็กที่ผู้ปกครองต้องเข้าใจและเรียนรู้ที่จะป้องกันและสังเกตได้ตั้งแต่เริ่มต้น

หากมองถึงปัญหาดังกล่าว ทางภาครัฐยังไม่ได้มีรูปแบบการรองรับการกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างจริงจัง และวัฒนธรรมสังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้เปิดกว้างเรื่องการให้ความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิต ยังคงเข้าใจว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นปัญหาที่ผู้ป่วยต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยแพทย์กระแสหลักจากโรงพยาบาลเพื่อเป็นหนทางแก้ไขหลัก

จังหวัดเชียงใหม่นับว่าเป็นจังหวัดมีพื้นที่และประชากรจำนวนกว่า 1,789,385 คน แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตได้เข้าทำการรักษา ประกอบกับหากไปปรึกษากับภาคเอกชน ผู้ปกครองหรือมูลนิธิที่ดูแลเด็กต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายที่สูง  ประชาชนส่วนใหญ่จึงมองว่าสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่ชะลอได้หรือไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อเข้ารับการักษาในรูปแบบนี้ 

โครงการ “จิตวิทยาให้คำปรึกษาและบำบัด แก่เด็กและผู้ที่ได้รับบาดแผลภายใน (Trauma care)” เป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนที่ถูกทารุณกรรม ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกคุกคามทางเพศ ถูกค้ามนุษย์ และถูกใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองและผู้อื่น โดยโครงการจะเปิดกว้างให้แก่คนทุกชนชั้น ทุกวัยทุกอาชีพ รวมทั้งชุมชนรากหญ้าให้ได้เข้าถึงการรับการรักษาผ่านนักจิตวิทยาเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ รวมถึงช่วยเหลือผู้ปกครองหรือบุคคลที่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้ เพื่อให้การเยียวยาและการให้คำปรึกษาช่วยเหลือคนในชุมชนได้มากที่สุด และเป็นพื้นฐานต่อผู้ที่เข้ามาโครงการให้มีความรู้สามารถมีส่วนในการป้องกันให้กับผู้อื่นในสังคมต่อไปได้

 

การสร้างความยั่งยืนของโครงการ

  1. การรักษาผู้ป่วยสุขภาพจิตให้ดีขึ้นจนสามารถกลับไปช่วยเหลือผู้อื่นในสังคมต่อไปได้
    และผู้เข้ารับการรักษาสามารถเป็นอาสาสมัครเพื่อทำการรักษาผู้อื่นในสังคมร่วมกับมูลนิธิในอนาคต
  2. การให้ความรู้พื้นฐานแก่บุคลากรเกี่ยวกับการรักษาบาดแผลภายในเพื่อกระจายการช่วยเหลือไปยังองค์กรอื่นๆ
  3. โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้คนในสังคมรู้จักศูนย์ HOPE CENTER ศูนย์ที่ให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม ดังนั้นเมื่อเป็นที่รู้จักจะทำให้องค์กรช่วยเหลือสังคมยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น อีกช่องทางหนึ่งคือการบริจาคของผู้เข้ารับการรักษาจะเป็นการส่งต่อความช่วยเหลือและช่วยสร้างความแข็งแกร่งของศูนย์มากขึ้น
 
 

Approaches to addressing issues

  1. จัดตั้งโครงการ “จิตวิทยาให้คำปรึกษาและบำบัด แก่เด็กและผู้ที่ได้รับบาดแผลภายใน (Trauma care)” เป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนที่ถูกทารุณกรรม ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกคุกคามทางเพศ ถูกค้ามนุษย์ และถูกใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ

  2. ช่วยเหลือผู้ปกครองหรือบุคคลที่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้ เพื่อให้การเยียวยาและการให้คำปรึกษาช่วยเหลือคนในชุมชนได้มากที่สุด และเป็นพื้นฐานต่อผู้ที่เข้ามาโครงการให้มีความรู้สามารถมีส่วนในการป้องกันให้กับผู้อื่นในสังคมต่อไปได้

Operational Plan

  1. จัดหานักจิตวิทยาเฉพาะทางจำนวน 3 คน ทางมูลนิธิฯ เป็นผู้ประสานจากผู้ที่เคยเป็นอาสาสมัครทำงานด้านสุขภาพจิตร่วมกับมูลนิธิฯ เนื่องจากมีความเข้าใจพื้นฐานและประสบการณ์การทำงานร่วมกับเด็กกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งติดต่อนักจิตวิทยาที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ทราบถึงแพลนการดำเนินงาน วางโครงสร้างการทำงานตามประเภทกลุ่ม และการประเมินผล (จัดสรรให้นักจิตวิทยาปฏิบัติงานเป็นรายครั้ง)

  2. ประสานงานร่วมกับองค์กร/หน่วยงาน 2.1. ร่วมประสานกับผู้นำเครือข่ายมูลนิธิฯ เด็กในจังหวัดเชียงใหม่ สถานสงเคราะห์เด็กในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งสถานสงเคราะห์ที่มีเด็กต้องการความช่วยเหลือ เพื่อส่งเด็กเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา รวมทั้งข้อตกลงและแนวทางร่วมกันระหว่างมูลนิธิ โดยตลอดโครงการรับในจำนวน 100 คน หรือมากกว่าในกรณีการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม 2.2. ร่วมประสานกับหน่วยงานภาครัฐคือ ผู้ใหญ่บ้าน 5 หมู่บ้านของ ต.สบแม่ข่า นายอำเภอหางดง สถานีตำรวจภูธรอำเภอหางดง และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพร้อมในการรองรับเด็กและประชาชนที่ต้องการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต โดยตลอดโครงการรับในจำนวน 150 คน หรือมากกว่าในกรณีการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม 2.3. ร่วมประสานกับ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ ด้านการส่งคนในกรณีต้องรับการรักษาจากจิตแพทย์เพื่อการจ่ายยา และส่งต่อคนที่ต้องการด้านการรักษาสุขภาพจิตแต่ไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพจิตจากโรงพยาบาล

  3. จัดแพลนตารางจิตวิทยาให้คำปรึกษาและบำบัด แบ่งการช่วยเหลือออกเป็นประเภทกลุ่มคน ดังนี้ กลุ่มที่ 1 : บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มทำร้ายตัวเอง กลุ่มที่ 2 : 2 กลุ่ม คือ 1.บุคคลกลุ่มเสี่ยงแต่ใช้ชีวิตได้ปกติ และบุคคลที่ได้รับบาดแผลทางจิตใจ กลุ่มที่ 3 : เด็กภายในโครงการ “เด็กไร้ที่พึ่ง” จำนวน 50 คน

  4. ออกแบบเก็บข้อมูลและประเมินผล จัดหาโปรแกรมเฉพาะการเก็บข้อมูลผู้ที่เข้ารับการให้คำปรึกษาและบำบัด เพื่อทำการประเมินและปรับปรุงการช่วยเหลือของนักจิตวิทยา โดยข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับภายใต้การดูแลข้อมูลของมูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล

  5. แพลนการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรมูลนิธิฯ บุคลากรภาครัฐ และกลุ่มผู้นำชุมชน จัดโดยมูลนิธิเรดิออนฯ และนักจิตวิทยาที่ให้การดูแลรักษาปีละ 4 ครั้ง มุ่งเน้นการให้ความรู้ด้านการให้คำปรึกษาเบื้องต้น การสังเกตผู้ป่วยทางสุขภาพจิตระยะแรก การช่วยเหลือผู้ที่ทำร้ายตัวเอง การเรียนรู้จักอาการผู้มีสภาวะ Trauma care เพื่อเป็นความรู้การช่วยเหลือคนภายใต้การดูแล

Budget Plan

ItemQuantityAmount (THB)
นักจิตวิทยาเชี่ยวชาญ/อาจารย์ 2,200-/วัน

80วัน176,000.00
นักจิตวิทยาเฉพาะทางเด็ก 1,500-/วัน

160วัน240,000.00
จัดอบรมบุคลากร 20,000/ครั้ง

4ครั้ง80,000.00
ระบบการจัดเก็บข้อมูลผู้เข้ารับการช่วยเหลือ

1ครั้ง35,000.00
Total Amount531,000.00
Taejai support fee (10%)53,100.00
Total amount raised
584,100.00

Project manager

มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไร (NGO) หน่วยงานคริสเตียนเพื่อบรรเทาทุกข์และพัฒนา ช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางและด้อยโอกาสในเอเชีย จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 โดยมี 3 โครงการหลักคือ โครงการเด็กและเยาวชน, โครงการพัฒนาชุมชน และโครงการภัยพิบัติ • ปี 2550 ชาวสิงคโปร์ 2 ท่านเข้ามาเป็นอาสาสมัครในมูลนิธิฯ แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ามาทำกิจกรรมในศูนย์อพยพม้งลาวที่หมู่บ้านห้วยน้ำขาว เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดและความยากลำบากของชุมชน เด็กขาดสารอาหาร ได้รับความรุนแรง ไม่มีโอกาสทางการศึกษา และอยู่อย่างไร้อนาคต • อาสาสมัครจึงตัดสินใจก่อตั้งมูลนิธิเรดิออนฯ ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อหางบประมาณสนับสนุนมายังประเทศไทย • หลังเริ่มมูลนิธิฯ ต่อมาทราบว่าชุมชนบ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ชุมชนม้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีปัญหาสังคมหลายด้านและยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขอย่างจริงจัง • ปัญหาที่พบคือ ปัญหาผู้หญิงถูกสามีทอดทิ้งหรือถูกทารุณกรรม ปัญหายาเสพติดของเด็กในวัยเรียน ปัญหาคนชราที่ขาดคนดูแล • จึงจัดตั้งเป็นมูลนิธิในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2552 โดยตั้งสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาขาที่หมู่บ้านเข็กน้อย และริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือชุมชน "ทุกชีวิตสำคัญ" คือคติธรรมของเรา เรามุ่งมั่นที่จะรับใช้ และเปิดกว้างให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสเพื่อที่ผู้คนเหล่านั้นจะสามารถเอาชนะความยากจนและการถูกกดขี่ข่มเหงในสังคมได้ เราเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ส่งต่อความรัก ความหวัง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นต่อไป “RADION” ย่อมาจากคำว่า “RADIATING MISSION” หมายถึง “การขยายพันธกิจ” เป้าหมายของเราคือส่งต่อความรักสู่ผู้ด้อยโอกาสในสังคมผ่านการลงมือทำ

View Profile

Create a fundraising page

Collaborate to fundraise in support of this project

Create a fundraising page
icon