ซาย มูฟเม้นท์ เริ่มต้นจากความต้องการผลักดันให้เด็กผู้พิการทางการเคลื่อนไหวได้เข้าถึงการรักษา เพื่อช่วยให้เด็กและครอบครัวผู้พิการมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสังคมให้มองความพิการเป็นเสมือนโรคหนึ่งที่สามารถรักษาให้หาย และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในสังคมอย่างเท่าเทียม กว่าสิบปีของมูลนิธิฯ มีการจัดตั้งโครงการขึ้นมากมายเพื่อให้เด็กๆ และครอบครัว หน่วยงานทางการแพทย์ รวมไปถึงสมาชิกในสังคมได้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติ ต่อผู้พิการ ไปในแนวทางเดียวกัน รวมไปถึงประสานความร่วมมือต่างๆ ทั้งจากใน และต่างประเทศเพื่อพัฒนาแนวทางการรักษา การช่วยเหลือเด็ก และครอบครัว พร้อมทั้งเต็มใจที่จะแบ่งปันความรู้เหล่านั้นไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตามวิสัยทัศน์ของเรา “เป็นศูนย์กลางการส่งเสริมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระ” วัตถุประสงค์หลัก 1. ให้โอกาสเด็กพิการด้านการเคลื่อนไหว ได้พัฒนาทัศนคติที่ดี มีกำลังใจ และมีอิสระในการเคลื่อนไหว จนสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ 2. ให้ความรู้และสร้างกำลังใจแก่ครอบครัว ที่มีสมาชิกพิการด้านการเคลื่อนไหว เพื่อให้สามารถดูแลทั้งตนเองและบุตรได้อย่างเหมาะสม 3. ส่งเสริมและผลักดันการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางการแพทย์ ด้านการรักษาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4. เผยแพร่ข้อมูลและสร้างทัศนคติที่ถูกต้องแก่สังคม เพื่อให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวได้รับการยอมรับ และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเท่าเทียม วิสัยทัศน์ และพันธกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความพิการทางด้านการเคลื่อนไหว รวมไปถึงครอบครัวของเด็กพิการ และสังคมที่เราอาศัยอยู่ นอกจากนี้ ยังเน้นในการทำให้สังคมได้ตระหนักรู้ และเกิดความเข้าใจพวกเขาในทางที่ดีขึ้น เพื่อก้าวสู่สังคมที่ปราศจากอุปสรรคทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ สิ่งแวดล้อม และทางจิตวิญญาณทั้งในประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากคุณวอลเตอร์ ลี ประธานผู้ก่อตั้ง คุณพ่อน้องซาย เด็กชายที่เกิดมาไม่มีแขนไม่มีขา..
AMCM ครั้งที่ 1-5 เด็กที่มีภาวะสมองพิการ (Cerebral Palsy: CP) มักประสบความยากลำบากในการเคลื่อนไหวทางร่างกาย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเด็กที่มีความบกพร่องด้านการเคลื่อนไหวมากถึง 10,000,000 ราย กุญแจสำคัญของการรักษาที่มีประสิทธิผลสำหรับเด็กที่มีภาวะ CP คือ การใช้แนวทางสหสาขาวิชา (Multidisciplinary Approach) ซึ่งต้องอาศัยทั้งประสบการณ์วิชาชีพ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และการจัดการทางคลินิกที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งการมีส่วนร่วมอย่างมากจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแล แนวทางการรักษาที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กเหล่านี้ค้นหาคุณค่าของตนเอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ดียิ่งขึ้น มูลนิธิ Zy Movement Foundation ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ได้ทำงานร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กกลุ่มนี้ในทุกมิติ และสนับสนุนให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระ การประชุม AMCM ถือเป็นโอกาสที่ตัวแทนจากประชาคมอาเซียนจะได้แบ่งปันความท้าทาย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างทีมสหสาขาวิชาในด้าน เวชศาสตร์ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ศัลยกรรมกระดูก
การบำบัดรักษาทางด้านการเคลื่อนไหว และการทรงตัว เป็นวิธีการที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้เวลานานในการบำบัดรักษา โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติทางสมองเข้ามาร่วมด้วย เช่น ผู้ป่วย โรคสมองพิการหรือ Cerebral Palsy (CP) เป็นโรคที่เกิดกับเด็กได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งเด็กที่เป็นโรคนี้พัฒนาการจะช้ากว่าปกติและพัฒนาการด้านอื่นจะบกพร่องอีกด้วย เด็กที่เป็นโรคนี้ส่วนมากจะเป็นตั้งแต่แรกเกิดจนประมาณ 7 ขวบ เด็กที่เป็นโรคนี้ส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เคลื่อนไหวช้าทรงตัวได้ไม่ดีต้องใช้ไม้ค้ำยันบางคนเดินไม่ได้ VOJTA in Thailand มูลนิธิซาย มูฟเม้นท์ เป็นผู้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการนำเข้าศาสตร์วอยต้าเข้ามาที่ประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน มาตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมีสถานพยาบาลทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ให้บริการการรักษาบำบัดด้วยศาสตร์วอยต้ากว่า 30 สถาบัน (คลิกเพื่อดูรายชื่อสถานพยาบาล) ซึ่งดำเนินการรักษาบำบัดโดยนักกายภาพที่สำเร็จหลักสูตร Vojta Therapy for Children ไปแล้วทั้งหมด 6 รุ่น รวม 150 คน ที่สามารถให้บริการแก่ผู้ป่วยเด็ก
โครงการ“ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต” Climb to Change a Life (CTCAL) เป็นการพาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวพร้อมครอบครัว ไปพิชิตยอดเขาสูงด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคสังคมและภาคธุรกิจที่ตระหนักถึงการให้โอกาส และเห็นความสำคัญของความเท่าเทียมในสังคม หลังจากจบกิจกรรม ผู้เข้าร่วมจะได้รับการยกย่องว่าเป็น “LIFE-CHANGER” หรือ “ผู้เปลี่ยนชีวิต” เพราะได้ร่วมกันฝ่าฝันอุปสรรคผ่านกิจกรรมที่สนุก ท้าทาย และมีความหมายต่อจิตใจ เด็กพิการที่สามารถพิชิตยอดเขาได้ จะได้รับการยกย่องเป็น “CHAMPION” หรือ “แชมป์เปี้ยนผู้กล้า” ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของหัวใจและสัญลักษณ์ของ การไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัด นี่ไม่ใช่เพียงการชนะภูเขา แต่คือการชนะตนเอง และกลายเป็นแรงบันดาลใจอันทรงคุณค่าแก่ครอบครัว อาสาสมัคร และสังคมโดยรอบ
พ่อแม่ผู้ปกครองคือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้สำเร็จ” มูลนิธิซาย มูฟเม้นท์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้จัดโครงการสัมมนา “ครอบครัวเพื่อพลังใจ” ร่วมกับโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ และมูลนิธิสำโรงรวมใจ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 7 โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ เวทีแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว หากยังเป็น “พื้นที่แห่งพลังใจ” ที่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาทักษะใหม่ ๆ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างสูง คือ การบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “กายภาพบำบัดวอยต้า” และ “เข้าใจลูกด้วย Floortime” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ภาริส วงศ์แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการดูแลลูกอย่างเข้าใจและมีหลักการ กิจกรรมในงานยังรวมถึงการเสวนาจากผู้ปกครองที่มีประสบการณ์ตรงและประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูบุตรพิการ รวมถึงเวิร์กช็อปด้านจิตวิทยาเพื่อเสริมสร้างพลังใจ และสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย เชื่อมโยง และสร้างเครือข่ายระหว่างครอบครัว
238 แขวงจอมพล เขตจตุจักร จ.กรุงเทพมหานคร 10900