นักเรียนที่ได้รับทุนจากลูกเหรียง

ทุนลูกเหรียง : สูญเสียไม่เสียศูนย์

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018

นางสาวรอมล๊ะ ดอเลาะ
อายุ 21 ปี ศึกษาที่มหาลัยสงขลานครินทร์ สาขาการสอนอิสลาม

หนูมีความฝันที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา แต่แล้วหนูก็ได้ไปสอบคัดเลือกหลายที่แต่ว่าพอถึงเวลาที่ต้องยืนยันสิทธิหนูกลับไม่มีเงินจะไปจ่ายให้กับทางมหาวิทยาลัยทำให้หนูต้องยกเลิกสิทธินั้นไป

ลูกเหรียงผู้เปลี่ยนอนาคตของหนู

นางสาวรอมล๊ะ ดอเลาะ อายุ 21 ปี ศึกษาที่มหาลัยสงขลานครินทร์ สาขาการสอนอิสลาม หนูเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาในท่ามกลางผู้คนที่มีฐานะที่ไม่ค่อยดีนัก และผู้เป็นบิดาก็ต้องเสียชีวิตไป หลังจากนั้นชีวิตของพวกเราก็เริ่มแย่ลง เพราะแม่ต้องทำงานหาเงินคนเดียวเพื่อที่จะได้ส่งเสียให้หนูและพี่สาวได้เล่าเรียน แม่จะทำงานรับจ้างทุกอย่างที่สามารถทำได้ บางครั้งแม่ก็ต้องออกไปทำงานรับจ้างกรีดยางนอกบ้าน โดยแม่จะกลับบ้านมาอยู่กับพวกเราอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง 

ตอนที่แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน หนูก็ต้องอาศัยอยู่กับพี่สาวเพียงสองคน บางวันก็ไปอยู่กับน้าบ้างยายบ้าง อีกทั้งแม่ก็ไม่ได้ให้เงินกับพวกเราสองพี่น้องมากทีเพราะแม่เองก็ไม่ได้มีเงินมากมายนัก จนทำให้ในบางครั้งแม่ก็จะต้องซื้อมาม่าให้กับพวกเราหนึ่งลังเพื่อเป็นกับข้าวในทุกมือ ตอนนั้นหนูมีความใฝ่ฝันว่าจะต้องเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา แต่ความฝันของหนูเริ่มจะจ่างหายไป ไปพร้อมกับความยากลำบากของครอบครัว แต่หนูหาวิธีทางเพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ หนูกล้าแสดงออกกล้าที่จะเป็นผู้นำ สามารถเป็นประธานโรงเรียน และแล้วความฝันของหนูในช่วงนั้นก็ได้เกิดขึ้นจริงคือหนูได้เข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาได้สำเร็จ ชีวิตของหนูในช่วงนี้หนูยอมรับว่ามีเหนื่อยและท้อบ้างในบางครั้งแต่ก็เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของครอบครัวหนู หนูมีความฝันที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา แต่แล้วหนูก็ได้ไปสอบคัดเลือกหลายที่แต่ว่าพอถึงเวลาที่ต้องยืนยันสิทธิหนูกลับไม่มีเงินจะไปจ่ายให้กับทางมหาวิทยาลัยทำให้หนูต้องยกเลิกสิทธินั้นไป แต่พอถึงช่วงที่จะยืนยันของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์หนูก็ไม่มีเงินที่จะยืนยันพร้อมจ่ายค่าเทอมเหมือนเช่นเคย แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งมีพี่ๆ จากทีมลูกเหรียงได้โทรติดต่อกับหนูว่าหนูได้รับทุนการศึกษาเพื่อนำไปใช้ในการเรียนต่อ วินาทีนั้นหนูยอมรับเลยว่าหนูรู้สึกดีใจมากๆ จนไม่รู้หนูจะอธิบายได้อย่างไรดีเพราะชีวิตของหนูไม่ค่อยจะได้รับทุนการศึกษาเลย หลังจากที่หนูได้รับทุนชีวิตหนูได้เปลี่ยนแปลงจากวันนั้น ทำให้หนูมีที่เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ในสาขาการสอนอิสลามศึกษา (หลักสูตรศึกษาศาสตร์บันฑิต) สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเปรียบเสมือนเป็นการต่อความฝันของหนูให้ป็นจริงไปอีกครึ่ง แต่แล้วความโชคดีของหนูมิได้หยุดเพียงเท่านั้นเพราะหนูได้รับทุนจากลูกเหรียงนี้มาอย่างต่อเนื่อง หนูรู้สึกการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของหนูไม่ค่อยจะมีปัญหาทางด้านการเงินเลย เพราะหากหนูมีปัญหานี้หนูจะโทรคุยกับพี่ๆน้องๆ บ้านลูกเหรียง ซึ่งตอนนี้หนูก็ได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยถึงปี 3 แล้ว อีกทั้งหนูยังได้รับตำแหน่งเป็นรองนายกสโมสรวิทยาลัยอิสลามศึกษา และผลการเรียนรวมของหนูตอนนี้นั้นได้ 3.80 และหนูรู้สึกว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนี้หนูได้รับโอกาสไว้มากมาย ไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดในจังหวัดที่หนูไม่เคยไป ล่าสุดหนูก็ได้มีโออาสเดินทางไปต่างประเทศ (มาเลซีย) ด้วย และยังคงมีโอกาสอื่นอีกมาที่เข้ามาในชีวิต

ท้ายที่สุดหนูขอขอบคุณทางพี่ๆลูกเหรียงที่ได้เลือกหนูให้เป็นหนึ่งในเด็กทุนลูกเหรียง ได้ให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ได้สัมผัสกับโอกาสที่ไม่เคยได้รับ อีกทั้งความฝันของการเป็นครูของหนูก็ใกล้เข้ามาแล้ว ความรู้สึกนี้หนูมิอาสจที่จะบรรยายได้ทั้งหมดที่หนูบอกได้ในตอนนี้คือหนูรู้สึกภูมิใจและรู้สึกดีมากๆกับการได้รับทุนการศึกษานี้


นางสาวอาอิชะ สาเรป
อายุ 19 ปี กำลังศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา คณะคุรุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย

กลุ่มลูกเหรียง ที่คอยสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จทั้งหมด จนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นทางอนาคตของตัวเองจนกลายเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งพบกับหนทางและแสงสว่างของชีวิตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ดิฉันนางสาวอาอิชะ สาเรป อายุ 19 ปี กำลังศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา คณะคุรุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ชีวิตทุกชีวิตล้วนต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามา เพื่อแลกกับความอยู่รอดตลอดจนประสบกับความสำเร็จตามที่ตนได้วาดฝันไว้ ทางเดินชีวิตของอัยชะไม่ได้เรียบง่ายและสวยงาม หากแต่เป็นเส้นทางที่ต้องฝ่าฟันกับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ตั้งแต่จำความได้อัยชะประสบพบเจอกับคำสบประมาทต่างๆ มากมายเกือบทั้งชีวิต บ้างว่า “จะเรียนไหวหรือ” บ้างว่า “อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวก็เสียคน” เนื่องจากเติบโตมาในครอบครัวแบบเลี้ยงเดี่ยวมีแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว บางครั้งอาศัยอยู่กับน้า บางครั้งอาศัยอยู่กับยาย น้อยครั้งนักที่จะได้เจอและอยู่กับแม่ เนื่องจากแม่ต้องทำงานเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดแต่เพียงผู้เดียว 

แต่ในฐานะที่อัยชะยังเป็นเด็ก ยังเป็นลูกของแม่ ยังเป็นหลานของยายและน้า หน้าที่ของอัยชะคือเรียนหนังสือและประพฤติตนให้ดี จึงตั้งใจเรียนหนังสือประกอบกับทำกิจกรรมต่างๆจนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลเยาวชนคนเก่ง ในโครงการด้วยรักและห่วงใยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลเยาวชนดีเด่นจากกระทรวงศึกษาธิการ รางวัลระดับเหรียญทองการแข่งขันเล่านิทานคุณธรรมทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และภาค ได้รับยกย่องว่าเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดี ช่วยเหลือกิจกรรมสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบัน นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ควบคู่กับรางวัลมิตรภาพ จากเวทีการประกวด freshy girl และรางวัลต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ไม่สามารถเกิดได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ครู เพื่อนๆ และที่สำคัญคือ สมาคมเพื่อนเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) ที่คอยสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จทั้งหมด จนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นทางอนาคตของตัวเองจนกลายเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งพบกับหนทางและแสงสว่างของชีวิตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

ในอนาคตอัยชะตั้งใจจะกลับไปสอนหนังสือให้กับเด็กๆ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อยู่ในถิ่นทุระกันดาร รวมไปถึงเด็กๆ ที่มีความผิดทางด้านร่างกาย เพราะพวกเขาควรได้รับโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากการศึกษาสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้นให้ดีขึ้น ตลอดจนสามารถอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นๆ ในสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมได้ในลำดับต่อไป เช่นเดียวกันกับสมาคมเพื่อนเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) ค่ะ


นายอับดุลฟาต๊ะ ดอเลาะ
อายุ 19 ปี ปัจจุบันศึกษาคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
มหาวิทยาลัยสงขานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี 

ในชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดเลยครับว่าเด็กที่สูญเสียพ่อคนนี้จะมีโอกาสไปต่างแดนเหมือนคนอื่นๆ

ผม นายอับดุลฟาต๊ะ ดอเลาะ อายุ 19 ปี ปัจจุบันศึกษาคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยสงขานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี ผมมีพี่น้อง 2 คน ผมเป็นคนที่1 น้องของเป็น น้องสาว ชื่อ เด็กหญิง ซัลมี ดอเลาะ กำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนพัฒนาวิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครับ 

บ้านลูกเหรียงคือบ้านของผม ลูกเหรียงคือที่พึ่งของผม ผมมีแม่ ผมมีพี่ ผมมีน้อง ผมมีเพื่อนๆ ในบ้านลูกเหรียง 5 ปี ที่ผมได้รับโอกาสดีๆ จากบ้านลูกเหรียง ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมยังจำได้ว่าวันที่ผมก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านลูกเหรียง ผมรู้สึกถึงอบอุ่น มีความรัก ความห่วงใยเต็มไปหมด ในบ้านลูกเหรียงหลังนี้ ผมก้าวมาด้วยแรงอันน้อยนิดที่ผมมี ก้าวมาด้วยความหวัง แบกความฝันของผมมาฝากไว้ที่บ้านหลังนี้ และบ้านหลังนี้ก็มอบทุกอย่างให้ผม มอบความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่น และโอกาสที่ผมได้เคยได้ที่ไหนมาก่อนครับ โอกาสที่ผมไม่อาจจะตีราคามันได้ นั่นคือความรัก ความอบอุ่น และที่สำคัญคือทุนการศึกษา ที่มอบให้มาโดยตลอด ลูกเหรียงได้ต่อยอดความรู้ความสามารถที่ผมมี

ผมได้ชิงทุนไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น ผมไปเรียนรู้ภาษา และวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ซึ่งในชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดเลยครับว่าเด็กที่สูญเสียพ่อคนนี้จะมีโอกาสไปต่างแดนเหมือนคนอื่นๆ ผมได้ไปเยี่ยมแดนอาทิตย์อุทัย ที่มีความแตกต่างหลายๆอย่าง เช่น ภาษา วัฒนธรรม ภูมิประเทศ สภาพอากาศ และอาหารการกินครับ มันทำให้ผมได้เรียนรู้โลกที่กว้างขึ้น ทำให้ผมได้เปิดโลกทัศน์ของตัวเองครับ มันเป็นโอกาสที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมที่ลูกเหรียงได้มอบให้ ผมจะไม่มีวันลืมประสบการณ์และความรู้ที่ผมได้เรียนมา ผมจะนำไปพัฒนาและต่อยอดความรู้ความสามารถที่ตัวเองมีครับ

ทุกวันนี้ ผมมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเหล่าเรียน ก็เพราะลูกเหรียงที่หาทุนการศึกษาให้ผม ผมได้มีโอกาสเรียนตามที่ผมอยากเรียน และทำในสิ่งที่ผมอยากเรียนรู้ ผมมีโอกาสมากกว่าเด็กคนอื่นครับ และผมจำสิ่งที่ครอบครัวบ้านลูกเหรียงสอนอยู่เสมอว่า เราเป็นคนในพื้นที่ เรามีหน้าที่ ที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิด ท้ายนี้ทุนการศึกษาที่ผมได้รับทำให้ผมได้มีโอกาสทางการศึกษา และการเรียนรู้ในเปิดโลกกว้าง และขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่มอบโอกาสดีๆ มาให้ผม และเพื่อนๆบ้านลูกเหรียง