project กลุ่มคนเปราะบาง

กองทุนเพื่อคนเร่ร่อนชายแดนแม่สาย

เมื่อคนเร่ร่อนขาดแคลนทั้งอาหาร ยา และเครื่องนุ่มห่ม กลุ่มครูน้ำที่ดูแลจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมกันตั้งกองทุนเพื่อคนเร่ร่อนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า (จ.เชียงราย-จ.ท่าขี้เหล็ก)ให้ได้รับการดูแลบ้าง

ระยะเวลาโครงการ 6 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ยอดบริจาคขณะนี้

47,099 บาท

เป้าหมาย

39,600 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 119%
จำนวนผู้บริจาค 43

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

รักษาพยาบาลคนเร่ร่อนกว่า 100 คน

14 กุมภาพันธ์ 2019

จากการบริจาค 42,390 บาท ที่ได้รับตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2560 ทางมูลนิธิบ้านครูน้ำ ได้นำเงินไปใช้จ่าย ดังนี้

1.ซื้อยาสำหรับแจกคนเร่ร่อนที่ชายแดนแม่สาย กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชาติพันธ์อาข่า มูเซอ ที่ยังเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขทั้งจากทางไทยและเมียนมา ยาที่ซื้อ ได้แก่ แอลกอฮอล์ วิตามินบี ยาธาตุ ยาแก้ไข ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาทาแก้ผื่นคัน น้ำยาล้างตา ด่างทับทิมสำหรับฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ สำลีก้อน แผ่นแปะลดไข้ เครื่องสูดยาสำหรับโรคหืดหอบ


แจกยาให้ชาวอาข่าที่ชายแดนแม่สาย

2.เป็นค่ารักษาพยาบาลของกลุ่มคนเร่ร่อนที่ชายแดนแม่สายและท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วนใหญ่เป็นญาติหรือคนในหมู่บ้านของเด็กๆ ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำดูแลอยู่ การรักษาได้แก่ การตรวจครรภ์ โรคหิด อาการปวดท้อง

3.จ่ายค่าประกันสุขภาพให้เด็กที่ยากจนและเร่ร่อนที่เข้ามาใหม่ในมูลนิธิบ้านครูน้ำ จำนวน 14 คน


เด็กๆ ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำดูแล


4.ซื้อยาสามัญประจำบ้านและยาตามอาการโรคของเด็กที่มูลนิธิบ้านครูน้ำ

ความประทับใจ


ครอบครัวอาข่าและมูเซอที่ชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็กพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่ก็ได้ขอบคุณเป็นภาษาของเขาทุกครั้งที่ได้รับยาและการรักษาจากมูลนิธิ ส่วนเด็กที่มูลนิธิรับเข้ามาใหม่เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาล ก็ได้มีประกันสุขภาพที่ทางมูลนิธิช่วยอุดหนุน และมีเงินสำรองไว้สำหรับการรักษาพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่ เด็กมักจะเป็นโรคหิด โรคกลากเกลื้อน และมีบางคนที่เป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง แม้เงินที่ได้รับจะใช้รักษาโรคทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการให้บรรเทาลงได้

อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

บริเวณชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก มีกลุ่มคนเร่ร่อนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนชนเผ่าต่าง ๆ เช่น อาข่า มูเซอ ที่เดินทางไกลมาจากเชียงตุง เพื่อมาหาชีวิตที่ดีกว่าในพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน แต่หลายคนกลับต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน เร่ขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ผักจากป่า เพราะไม่มีงานทำ ไม่มีที่ดินทำกิน หรือบางคนเป็นคนขอทานอยู่ที่บริเวณสะพานข้ามด่านไทย-พม่า นั่งตั้งแต่เช้าถึงเย็น ทั้งเด็กเล็ก หนุ่มสาว คนแก่ วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20 ชีวิต คนกลุ่มนี้เมื่อป่วยทีก็ไม่มีเงินซื้อยา ไม่มีเงินเข้าโรงพยาบาล บางคนอยากทำหมัน เพราะจำนวนลูกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นภาระแก่ตัวเอง แต่ก็มีเงินไม่เพียงพอ หลายคนที่พักพิงอยู่ในหมู่บ้านอาข่าที่อยู่บริเวณชายแดนป่วยเป็นวัณโรค แต่ก็ไม่รักษา เพราะไม่รู้จักวิธี และขาดความรู้เรื่องการรักษาสมัยใหม่ จนบางครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักไปถึงจะเข้าใจความสำคัญของหมอ


ทางมูลนิธิบ้านครูน้ำได้ทำงานกับคนกลุ่มนี้มาเป็นเวลากว่า 15 ปี ดูแลด้านปัจจัยสี่ต่าง ๆ ส่วนการดูแลระยะยาวที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯ ได้ช่วยเหลือเด็ก และผู้หญิงเร่ร่อนที่อยู่ในความเสี่ยงด้านยาเสพติดและถูกนำไปค้ามนุษย์กว่า 200 คน โดยการให้ที่พักและส่งเด็กเข้าระบบการศึกษา ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ส่งเสริมด้านอาชีพ เช่น งานฝีมือ ปัจจุบันมีเด็กในความดูแลอยู่ที่มูลนิธิฯ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จำนวน 83 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ยังคอยไปเยี่ยมครอบครัวเด็กเหล่านี้อยู่สม่ำเสมอเพื่อสอบถามความเป็นอยู่ หากเขาขาดแคลนอะไรก็จะนำไปให้เท่าที่หาได้


ส่วนกลุ่มคนหน้าใหม่ที่มาเร่ร่อนเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีเด็กจำนวนประมาณ 50 คน และผู้ใหญ่อีกเกือบ 100 คน ซึ่งยังมีคุณภาพที่ไม่ดี และงบประมาณที่มีก็ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง การระดมทุนครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อหาแรงสนับสนุนในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่สำคัญว่าจะสัญชาติไหน หรือมีสัญชาติหรือไม่ และเพื่อต้องการให้คนที่อยู่ไกลออกไปรับรู้ถึงปัญหาบริเวณชายแดน

ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ก็สามารถร่วมกันช่วยเหลือกลุ่ม “คนชายขอบ” เหล่านี้ได้

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ

  • ประชาสัมพันธ์เรื่องปัญหาชายแดนและทำการระดมทุนผ่านเว็บไซต์เทใจดอทคอม รวมไปถึงการเปิดรับบริจาคยา (ส่งมาที่อยู่: มูลนิธิบ้านครูน้ำ โครงการมิตรข้างถนน 128 หมู่ 7 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย 57130 ระบุว่า “บริจาคยาจาก taejai.com” ติดต่อที่ โทร. 053 731 422)
  • เมื่อระดมทุนได้จำนวนตามที่กำหนดแล้ว นำเงินไปซื้อยารักษาโรค ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาถ่ายพยาธิ ยาแก้อักเสบ แผ่นแปะลดไข้ ด่างทับทิม วิตามินบี ยาแก้แพ้ ยาสำหรับทำแผล ยาธาตุน้ำขาว ยาหยอดยา ยาหยอดหู สำลี แอลกอฮอล์ เอาไปแจกที่หมู่บ้านบริเวณชายแดนพม่าส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ที่ศูนย์ Drop-in ของมูลนิธิบ้านครูน้ำ ตั้งอยู่ห่างจากด่านชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 500 เมตร เพื่อเป็นศูนย์กลางของการรักษา เมื่อกลุ่มเป้าหมายป่วย จะเดินทางมาบอกอาการและขอรับยาที่ศูนย์แห่งนี้ได้
  • นำเงินเก็บไว้เป็นกองทุนสำหรับทำอาหารแจกคนเร่ร่อน
  • พากลุ่มคนที่ต้องการทำหมันไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย
  • สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ Facebook: แม่สาย 2017 และ Facebook: มูลนิธิบ้านครูน้ำ โครงการมิตรข้างถนน

ประโยชน์ของโครงการ

  1. ช่วยเหลือด้านสุขอนามัยแก่กลุ่มคนชนเผ่าที่ไม่มีเงินหรือไม่มีโอกาสได้ไปโรงพยาบาล
  2. ช่วยลดปัญญาโรคติดต่อในชุมชนชายแดน
  3. ช่วยลดปัญหาการค้ามนุษย์จากการลดจำนวนเด็กที่จะเกิดมาในครอบครัวที่ยังเร่ร่อนอยู่
  4. เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนชายแดน

สมาชิกภายในทีม

  1. นางสาวศากุน บางกระ (SAKUN BANGKRA) จบวารสารฯ ธรรมศาสตร์ เคยเป็นนักข่าวเซคชั่นไลฟ์สไตล์ สังคม วัฒนธรรม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งอยู่สองปี แล้วลาออกมาเป็นบัณฑิตอาสาสมัครของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปฏิบัติงานด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการรวมกลุ่มประชากรอาเซียน ลงพื้นที่อยู่ที่บ้านเกาะทราย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำงานช่วยเหลือกลุ่มคนชนเผ่าที่อยู่ทั้งฝั่งไทย-พม่า ในด้านการศึกษา อาชีพ คุณภาพชีวิต ร่วมกับมูลนิธิบ้านครูน้ำ (โครงการมิตรข้างถนน)
    ติดต่อได้ที่ โทร. 097 979 1535, e-mail : sakun.bk@gmail.com, Facebook : Sakun Joe Facebook Fanpage : แม่สาย 2017
  2. นายทวีศิลป์ หงส์หิน (THAWEESIN HONGHIN) ผู้จัดการมูลนิธิบ้านครูน้ำ หรือ “ครูอู๊ด” คนแม่สายที่ทำงานเพื่อคนเร่ร่อนมา 6 ปี นอกจากจะลงพื้นที่เก็บข้อมูล ดูแลคนชนเผ่าที่เร่ร่อนบริเวณสะพานข้ามด่านไทย-พม่า และรัศมีใกล้เคียง ยังเป็นครูสอนภาษาไทยพื้นฐานให้กับกลุ่มคนแรงงานและคนชนเผ่าที่สนใจ ประจำอยู่ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำ (โครงการมิตรข้างถนน)
    ติดต่อได้ที่ โทร. 053 731422 e-mail : vcdf.dropin@gmail.com, Facebook Fanpage : มูลนิธิบ้านครูน้ำ โครงการมิตรข้างถนน

ภาคี


ความประทับใจจากโครงการกองทุนเพื่อคนเร่ร่อนชายแดนแม่สาย

18 ตุลาคม 2017

รับผิดชอบโดย : มูลนิธิบ้านครูน้ำ

การดำเนินโครงการหลังจากนี้ จะนำเงินไปซื้อยารักษาโรคให้กลุ่มเป้าหมาย คือ คนเร่ร่อน และกลุ่มคนที่ขาดแคลนยาบริเวณชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก สำหรับระยะเวลา 6 เดือน ยาที่จัดซื้อได้แก่ ยาพาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาถ่ายพยาธิ ยาแก้อักเสบ แผ่นแปะลดไข้ ด่างทับทิม วิตามินบี ยาแก้แพ้ ยาสำหรับทำแผล ยาธาตุน้ำขาว ยาหยอดตา ยาหยอดหู สำลี แอลกอฮอล์ และซื้อยาสำหรับเด็กๆ ที่เคยเร่ร่อนและมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิบ้านครูน้ำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เช่น ยาสามัญประจำบ้าน

นอกจากนี้จะรวบรวมกลุ่มแม่เด็กหรือผู้หญิงที่ต้องการทำหมันที่อยู่ในหมู่บ้านหรือเร่ร่อนบริเวณชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก พาไปดำเนินการการทำหมันที่โรงพยาบาลต่อไป

เงินส่วนหนึ่งจะเป็นกองทุนมูลนิธิบ้านครูน้ำ สนับสนุนโครงการมิตรข้างถนน ศูนย์ดรอปอิน (drop-in) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ประมาณ 500 เมตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือกลุ่มคนเร่ร่อนด้านอาหารและการพยาบาลในกรณีฉุกเฉินต่างๆ

ความประทับใจ

ทางมูลนิธิบ้านครูน้ำขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่านที่สนใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่อยู่บริเวณชายขอบ ในตอนแรกเราไม่แน่ใจว่า จะมีคนสนใจประเด็นปัญหาเช่นนี้มากเท่าไร เพราะเป็นเรื่องที่ไกลตัวหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในเมือง แต่หลังจากที่โครงการระดมทุนนี้ออกไป มีหลายคนถามถึงมากขึ้น และสนใจจะช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า ด้วย ทำให้เราดีใจที่มีคน "มองเห็น" และเมื่อโครงการนี้ระดมทุนได้สำเร็จ ก็ยิ่งทำให้เราดีใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการสนับสนุนด้านค่าใช้จ่าย แต่ยังบอกได้ว่า เรื่องของคนชายขอบได้มีการรับรู้มากขึ้นแล้ว

เราเชื่อว่า เมื่อปัญหาได้มีการรับรู้ร่วมกันระดับหนึ่ง อย่างน้อยการเร่ร่อน การขาดแคลนการดูแล การขาดการศึกษาของกลุ่มคนชายขอบ ก็จะถูกบอกต่อออกไป และ "พวกเรา" ก็จะเป็นฟันเฟืองที่ช่วยกันขับเคลื่อนการแก้ปัญหานี้ร่วมกันได้

เมื่อเราลงพื้นที่มอบยาหรือของเล็กๆ น้อยๆ ให้กับกลุ่มคนอาข่าที่เราดูแล จะบอกกับเราเสมอว่า "กื่อหล่องหึมาเด" แปลว่า "ขอบคุณนะ"

เราจึงขอบอกกับทุกคนว่า "กื่อหล่องหึมาเด" ขอบคุณแทนผู้ที่ได้รับโอกาสด้วยค่ะ

รักษาพยาบาลคนเร่ร่อนกว่า 100 คน

14 กุมภาพันธ์ 2019

จากการบริจาค 42,390 บาท ที่ได้รับตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2560 ทางมูลนิธิบ้านครูน้ำ ได้นำเงินไปใช้จ่าย ดังนี้

1.ซื้อยาสำหรับแจกคนเร่ร่อนที่ชายแดนแม่สาย กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชาติพันธ์อาข่า มูเซอ ที่ยังเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขทั้งจากทางไทยและเมียนมา ยาที่ซื้อ ได้แก่ แอลกอฮอล์ วิตามินบี ยาธาตุ ยาแก้ไข ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาทาแก้ผื่นคัน น้ำยาล้างตา ด่างทับทิมสำหรับฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ สำลีก้อน แผ่นแปะลดไข้ เครื่องสูดยาสำหรับโรคหืดหอบ


แจกยาให้ชาวอาข่าที่ชายแดนแม่สาย

2.เป็นค่ารักษาพยาบาลของกลุ่มคนเร่ร่อนที่ชายแดนแม่สายและท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วนใหญ่เป็นญาติหรือคนในหมู่บ้านของเด็กๆ ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำดูแลอยู่ การรักษาได้แก่ การตรวจครรภ์ โรคหิด อาการปวดท้อง

3.จ่ายค่าประกันสุขภาพให้เด็กที่ยากจนและเร่ร่อนที่เข้ามาใหม่ในมูลนิธิบ้านครูน้ำ จำนวน 14 คน


เด็กๆ ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำดูแล


4.ซื้อยาสามัญประจำบ้านและยาตามอาการโรคของเด็กที่มูลนิธิบ้านครูน้ำ

ความประทับใจ


ครอบครัวอาข่าและมูเซอที่ชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็กพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่ก็ได้ขอบคุณเป็นภาษาของเขาทุกครั้งที่ได้รับยาและการรักษาจากมูลนิธิ ส่วนเด็กที่มูลนิธิรับเข้ามาใหม่เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาล ก็ได้มีประกันสุขภาพที่ทางมูลนิธิช่วยอุดหนุน และมีเงินสำรองไว้สำหรับการรักษาพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่ เด็กมักจะเป็นโรคหิด โรคกลากเกลื้อน และมีบางคนที่เป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง แม้เงินที่ได้รับจะใช้รักษาโรคทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการให้บรรเทาลงได้

แผนการใช้เงิน


รายการจำนวนเงิน(บาท)
1. ค่ายารักษาโรค(สำหรับแจกเป็นเวลา 6 เดือน)

15,000

2. ค่ารักษาพยาบาล

12,000

3. ค่าอาหาร3,000
4. อื่น ๆ (กรณีรักษาฉุกเฉิน)6,000
5. ค่าธรรมเนียมเทใจ 10%3,600
รวมเป็นเงิน39,600