ช่วยเด็กในชุมชนแออัดได้เรียนภาษาอังกฤษเพื่ออนาคต
สมทบทุนค่าจ้างคุณครูสอนภาษาอังกฤษ ให้เด็ก ๆ ในชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อเปิดโอกาสใหม่ในชีวิต และนำไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ในอนาคต
ระยะเวลาโครงการ 01 มิ.ย. 2565 ถึง 31 พ.ค. 2566 พื้นที่ดำเนินโครงการ ระบุพื้นที่: แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร (ชุมชนแออัดคลองเตย)
ยอดบริจาคขณะนี้
43,836 บาทเป้าหมาย
118,800 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ได้เรียนแล้ว! ภาษาอังกฤษสนุกมาก
หลังจากได้รับเงินจากทางเทใจ ในวันที่ 8 เมษายน 2565 แล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ทำประกาศทาง Social media หาครูผู้สอนภาษาอังกฤษเพิ่มอีก 1 ท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ทำการระดมทุนมา โดยถึงช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม มีผู้สมัครเข้ามา 2 ท่าน และหลังจากทำการสัมภาษณ์และทดลองสอนแล้ว เราได้ทำการติดต่อคุณครู 1 ใน 2 ท่านที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อนัดหมายวันเริ่มงาน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งทางอีเมล์และโทรศัพท์ หลักจากพยายามติดต่ออยู่ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้น ทางทีมงานจึงต้องเริ่มต้นประกาศรับสมัครครูอีกครั้ง
การเรียนการสอนวันแรก
จนกระทั่งวันที่ 8 มิถุนายน 2565 คุณครูท่านใหม่ได้มาเริ่มงานวันแรก และทำการสอนในระดับ Beginner หรือกลุ่มเด็กเล็ก โดยคลาสภาษาอังกฤษของเรามี 2 ระดับ ได้แก่ Beginner และ Intermediate สอนทุกวันอังคาร เวลา 16.00 น. – 19.00 น. โดยในวันนี้มีนักเรียนทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็น Beginner 4 คน และ Intermediate 8 คน
ภาพประกอบ 1: คุณครูปุ๊กกี้กำลังสอนคำศัพท์ให้กับเด็กๆ และเหล่าลูกเจี๊ยบก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
การเรียนในวันนี้มีความพิเศษ คือ มีอาสาสมัครชาวต่างชาติเข้ามาให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับเรื่องโลกร้อนและการดูแลธรรมชาติ เด็ก ๆ จะได้ฝึกการฟังและการพูดเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงมีกิจกรรมให้นักเรียนเล่นด้วย ปกติเด็ก ๆ จะสนุกกันมากเมื่อได้ทำกิจกรรม แต่ต้องมีครูที่คอยช่วยอธิบายเด็กเป็นภาษาไทยด้วย ซึ่งเดิมเราจะมีปัญหาในส่วนนี้ ที่มีคุณครูไม่เพียงพอ ทำให้เด็กบางส่วนไม่ได้รับการดูแลเพียงพอ และอาจมีขัดแย้งหรือกระทบกระทั่งกันบ้าง
แต่สำหรับในการเรียนครั้งนี้มีความราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีคุณครูครบ 2 ท่าน แบ่งหน้าที่กันดูแลเด็กเล็กและเด็กโต เด็ก ๆ ทั้งสองกลุ่มได้รับความเอาใจใส่อย่างเพียงพอ น้องเล็กก็ได้รับความสนใจจากครูจึงไม่มีการไปแกล้งแหย่พี่ ๆ ให้เกิดความรำคาญใจกัน กิจกรรมเป็นไปอย่างสนุกสนานและเด็ก ๆ ก็ได้ฝึกสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วย เพราะอาสาสมัครท่านนี้มาสอนเด็ก ๆ หลายครั้งแล้ว จึงเริ่มเกิดความคุ้นเคยกัน เด็ก ๆ กล้าพูดภาษาอังกฤษขึ้นกว่าครั้งก่อน
ภาพประกอบ 2: Full team! คุณครูภาษาอังกฤษของเราทั้งสองคน และครูอาสาสมัครชาวต่างชาติ กำลังอธิบายเด็กๆ เรื่องโลกร้อน
หลังจากจบกิจกรรม คุณครูก็จะมาพูดคุยกับเด็ก ๆ สร้างความคุ้นเคยและทบทวนความรู้และสอนคำศัพท์ง่าย ๆ ด้วยรูปภาพ ฝึกถามตอบกับเด็ก ๆ ทีละคน เรายังไม่เน้นเรื่องวิชาการ โดยเฉพาะในครั้งแรกที่ครูและนักเรียนเพิ่งเจอกัน
ความประทับใจ
น้องหมิว : เรียนกับครูปุ๊กกี้แล้วสนุกค่ะ เวลาเรียนกับครูที่โรงเรียนแล้วเค้าก็จะมีดุ มีตีบ้าง หนูไม่ค่อยชอบค่ะ แต่ว่าพอเป็นครูปุ๊กกี้สอนเค้าจะใจดี ไม่ดุ ไม่ตี ชอบที่ครูสอนให้อ่านออกเสียง สนุกค่ะ ชอบครูปุ๊กกี้ค่ะ
น้องมิ้งค์ : สนุกมาก เรียนเรื่องผัก ผลไม้ ครูใจดีมากไม่ตีเลย
อ่านต่อ »
ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
คลองเตยคือชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีจำนวนประชากรมากกว่า 61,000 คน และมีพื้นที่ขนาดเล็กเป็นอันดับ 21 แต่มีประชากรมากเป็นอันดับ 18 ของกรุงเทพมหานคร เด็กและเยาวชนในชุมชนแออัดคลองเตยจึงต้องอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกชักจูงไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสมในสังคมได้ง่าย อีกทั้งปัจจัยด้านปัญหาทางสังคมและครอบครัวไม่เอื้ออำนวยให้เด็กและเยาวชนเจริญเติบโตไปเป็นกำลังทางสังคม เช่น ผู้ปกครองต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ไม่มีเวลาดูแลอย่างใกล้ชิด หรือบางคู่มีการหย่าร้างจึงละทิ้งบุตรหลาน สิ่งแวดล้อมทางกายภาพเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเด็กและเยาวชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดคลองเตย (พงษ์เทพ จิตดวงเปรม, 2019)
เด็ก ๆ ที่นี่หลายคนที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความยากลำบากดังกล่าว ทั้งความยากจน ความรุนแรงในครอบครัว การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การใช้ยาเสพติดและเครื่องดื่มมึนเมา การค้าประเวณี และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่าง ๆ ที่พวกเขาไม่ควรจะได้พบเจอ โดยเฉพาะในช่วงวัยนี้ที่กำลังเรียนรู้และเจริญเติบโตเพื่อเป็นกำลังหลักของสังคมในอนาคต
จากสาเหตุข้างต้น การสอนภาษาอังกฤษในชุมชนแออัดจึงเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการนำความรู้นี้ไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ใช้ประกอบอาชีพ หรือประยุกต์ใช้ความรู้นี้นำไปต่อยอดเป็นการเปิดโอกาสต่าง ๆ ในชีวิตอีกมากมาย ซึ่งหลักสูตรภาษาอังกฤษของมูลนิธิพู่กัน ได้รับการพัฒนาหลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน โดยออกแบบให้เหมาะสมกับการนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน และแบ่งผู้เรียนออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ Beginner และ Intermediate ตามพื้นฐานความรู้ของเด็ก ๆ ทำการสอนทุกสัปดาห์ในวันพุธ เวลา 16.00 น. - 19.00 น.
นอกจากให้ความรู้แล้ว ที่มูลนิธิพู่กัน เรามีมุ่งเน้นเป็นเสมือนพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชนทุกคน เด็ก ๆ จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้เจอกับเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน สามารถพูดคุยกับคุณครูและเจ้าหน้าที่ถึงปัญหาในชีวิตของพวกเขาได้โดยไม่มีใครตัดสิน รวมถึงมีการจัดหาความช่วยเหลือหากนักเรียนต้องการที่ปรึกษาเพื่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นอีกด้วย
ที่ผ่านมา การสอนวิชาภาษาอังกฤษโดยครูอาสาสมัคร ได้รับผลตอบรับที่ดีจากเด็ก ๆ แต่ว่านักเรียนทุกคนต้องเรียนรวมกันเนื่องจากเรามีครูเพียงแค่ 1 คน จึงไม่สามารถแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่มตามพื้นฐานความรู้ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง เราจึงมีความตั้งใจที่จะจ้างครูผู้สอนเป็นครูประจำ จำนวน 2 คน เพื่อประสิทธิภาพและความต่อเนื่องของการเรียนตามหลักสูตรที่เราวางแผนไว้ โดยในปัจจุบันเรายังขาดเม็ดเงินที่จะมาสนับสนุนโปรแกรมภาษาอังกฤษในส่วนนี้
แทนคำขอบคุณผู้ใจดีทุกคน เมื่อบริจาค 300 บาท ขึ้นไป สำหรับ 100 ท่านแรก เราจะจัดส่งปฏิทินแบบไม่ระบุวันที่ให้กับท่านโดยสามารถส่งรายละเอียดการบริจาคและที่อยู่ของท่าน มาทาง Facebook Inbox นี้: http://m.me/PaintbrushFoundation
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
ขั้นตอนที่ 1 - จัดหาครูผู้สอน
จัดหาครูผู้สอนและผู้ดูแลโปรแกรม จำนวน 2 คน โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้
- ผู้ดูแลโปรแกรมภาษาอังกฤษ รับหน้าที่สอนหลักสูตร Intermediate และบริหารจัดการหลักสูตรในภาพรวม รวมถึงทำการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบว่าเรามีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษฟรีให้กับเด็กและเยาวชนในชุมชน เพื่อการเข้าถึงเด็ก ๆ ในจำนวนที่มากขึ้น
- ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ รับหน้าที่สอนหลักสูตร Beginner
ขั้นตอนที่ 2 - ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบถึงการเรียนการสอน
ขั้นตอนที่ 3 - ทำการเรียนการสอน
- ครูผู้สอนมีการวัดระดับความรู้พื้นฐานของนักเรียน แล้วทำการจัดให้อยู่ในคลาสที่เหมาะสม
- ครูผู้สอนทำการสอนและประเมินว่านักเรียนควรปรับขึ้นไปอยู่ในหลักสูตรที่สูงขึ้นหรือไม่
ขั้นตอนที่ 4 - อัพเดทความคืบหน้าบน Taejai.com และ Facebook ของมูลนิธิ
ผู้รับผิดชอบโครงการ
นางสาววชัญษา แสนคำ
มูลนิธิพู่กัน
Facebook: https://www.facebook.com/PaintbrushFoundation/
Website: https://paintbrushfoundation.org/
ได้เรียนแล้ว! ภาษาอังกฤษสนุกมาก
หลังจากได้รับเงินจากทางเทใจ ในวันที่ 8 เมษายน 2565 แล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ทำประกาศทาง Social media หาครูผู้สอนภาษาอังกฤษเพิ่มอีก 1 ท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ทำการระดมทุนมา โดยถึงช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม มีผู้สมัครเข้ามา 2 ท่าน และหลังจากทำการสัมภาษณ์และทดลองสอนแล้ว เราได้ทำการติดต่อคุณครู 1 ใน 2 ท่านที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อนัดหมายวันเริ่มงาน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งทางอีเมล์และโทรศัพท์ หลักจากพยายามติดต่ออยู่ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้น ทางทีมงานจึงต้องเริ่มต้นประกาศรับสมัครครูอีกครั้ง
การเรียนการสอนวันแรก
จนกระทั่งวันที่ 8 มิถุนายน 2565 คุณครูท่านใหม่ได้มาเริ่มงานวันแรก และทำการสอนในระดับ Beginner หรือกลุ่มเด็กเล็ก โดยคลาสภาษาอังกฤษของเรามี 2 ระดับ ได้แก่ Beginner และ Intermediate สอนทุกวันอังคาร เวลา 16.00 น. – 19.00 น. โดยในวันนี้มีนักเรียนทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็น Beginner 4 คน และ Intermediate 8 คน
ภาพประกอบ 1: คุณครูปุ๊กกี้กำลังสอนคำศัพท์ให้กับเด็กๆ และเหล่าลูกเจี๊ยบก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
การเรียนในวันนี้มีความพิเศษ คือ มีอาสาสมัครชาวต่างชาติเข้ามาให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับเรื่องโลกร้อนและการดูแลธรรมชาติ เด็ก ๆ จะได้ฝึกการฟังและการพูดเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงมีกิจกรรมให้นักเรียนเล่นด้วย ปกติเด็ก ๆ จะสนุกกันมากเมื่อได้ทำกิจกรรม แต่ต้องมีครูที่คอยช่วยอธิบายเด็กเป็นภาษาไทยด้วย ซึ่งเดิมเราจะมีปัญหาในส่วนนี้ ที่มีคุณครูไม่เพียงพอ ทำให้เด็กบางส่วนไม่ได้รับการดูแลเพียงพอ และอาจมีขัดแย้งหรือกระทบกระทั่งกันบ้าง
แต่สำหรับในการเรียนครั้งนี้มีความราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีคุณครูครบ 2 ท่าน แบ่งหน้าที่กันดูแลเด็กเล็กและเด็กโต เด็ก ๆ ทั้งสองกลุ่มได้รับความเอาใจใส่อย่างเพียงพอ น้องเล็กก็ได้รับความสนใจจากครูจึงไม่มีการไปแกล้งแหย่พี่ ๆ ให้เกิดความรำคาญใจกัน กิจกรรมเป็นไปอย่างสนุกสนานและเด็ก ๆ ก็ได้ฝึกสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วย เพราะอาสาสมัครท่านนี้มาสอนเด็ก ๆ หลายครั้งแล้ว จึงเริ่มเกิดความคุ้นเคยกัน เด็ก ๆ กล้าพูดภาษาอังกฤษขึ้นกว่าครั้งก่อน
ภาพประกอบ 2: Full team! คุณครูภาษาอังกฤษของเราทั้งสองคน และครูอาสาสมัครชาวต่างชาติ กำลังอธิบายเด็กๆ เรื่องโลกร้อน
หลังจากจบกิจกรรม คุณครูก็จะมาพูดคุยกับเด็ก ๆ สร้างความคุ้นเคยและทบทวนความรู้และสอนคำศัพท์ง่าย ๆ ด้วยรูปภาพ ฝึกถามตอบกับเด็ก ๆ ทีละคน เรายังไม่เน้นเรื่องวิชาการ โดยเฉพาะในครั้งแรกที่ครูและนักเรียนเพิ่งเจอกัน
ความประทับใจ
น้องหมิว : เรียนกับครูปุ๊กกี้แล้วสนุกค่ะ เวลาเรียนกับครูที่โรงเรียนแล้วเค้าก็จะมีดุ มีตีบ้าง หนูไม่ค่อยชอบค่ะ แต่ว่าพอเป็นครูปุ๊กกี้สอนเค้าจะใจดี ไม่ดุ ไม่ตี ชอบที่ครูสอนให้อ่านออกเสียง สนุกค่ะ ชอบครูปุ๊กกี้ค่ะ
น้องมิ้งค์ : สนุกมาก เรียนเรื่องผัก ผลไม้ ครูใจดีมากไม่ตีเลย
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ค่าจ้างผู้ดูแลโปรแกรมภาษาอังกฤษ และสอนภาษาอังกฤษหลักสูตร Intermediate เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาทต่อเดือน | 12 เดือน | 72,000.00 |
2 | ค่าจ้างครูผู้สอนภาษาอังกฤษหลักสูตร Beginner เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อเดือน | 12 เดือน | 36,000.00 |