project เด็กและเยาวชน

Art for Health

ชักชวนอาสาสมัครช่วยกันทาสี และปรับทัศนียภาพให้กับพื้นที่บ้านเด็กพิการ เพื่อฟื้นฟูจิตใจ เสริมสร้างศักยภาพการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ สังคม และสุนทรียศาสตร์

ระยะเวลาโครงการ 10 พฤศจิกายน - 27 พฤศจิกายน 2559 พื้นที่ดำเนินโครงการ ภาคกลาง

ยอดบริจาคขณะนี้

20,154 บาท

เป้าหมาย

20,000 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 101%
จำนวนผู้บริจาค 16

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

สร้างศิลปะเสริมพัฒนาการ ให้บ้านเด็กพิการกับ Art for health

19 พฤษภาคม 2017

โครงการ Art for Health ได้จัดกิจกรรมเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา โดยมีอาสาสมัครมาเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 198 คน มีผู้ใจบุญบริจาคสีรวมถึงอุปกรณ์สำหรับทาสีให้บ้านเด็กพิการและร่วมสมทบทุนซื้อสีและอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรม จำนวน 20,154 บาทถ้วน และทางโครงการได้จัดกิจกรรมทาสีให้บ้านเด็กพิการ ประกอบด้วย 1)สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 2)สถาบันราชานุกูล วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559 และ 3)บ้านคามิลเลียน เพื่อเด็กพิการ วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559

สรุปผลการดำเนินกิจกรรม เป็น 3T ดังนี้

Time: 1. อาสาสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 292 คน

          2. อาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 198 คน

Talent: นักวาดภาพอาสาสมัคร จำนวน 29 คน

Treasure: 1. รายการสีและอุปกรณ์สำหรับทาสี ประกอบด้วย

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีขาว (3.5 ลิตร) จำนวน 9 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีแดง (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีน้ำเงิน (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเหลือง (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเขียว (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีดำ (3.5 ลิตร) จำนวน 3 ถัง

                    -สีรองพื้น สำหรับทาภายนอก (3.5 ลิตร) จำนวน 12 ถัง

                    -แปรงสำหรับทาสี เบอร์ 1 2 และ4 นิ้ว จำนวน 1 ชุด

                    -พู่กันหัวกลมทาสี เบอร์ 8 และ12 นิ้ว จำนวน 2 ชุด

                 2. ผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนซื้อสีและอุปกรณ์สำหรับทาสี จำนวน 20,154 บาทถ้วน


ประโยชน์ที่ได้รับ 
1. สร้างทัศนียภาพ และบรรยากาศที่น่าอยู่ให้กับบ้านเด็กพิการ

2. เด็กพิการได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพจิตที่ดี และเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ

3. ภาพศิลปะบางส่วนจะเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมฝึกพัฒนาการของเด็กๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม

4. ภาคประชาสังคมได้เรียนรู้ ตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นจิตอาสา และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมร่วมกันจากทุกภาคส่วน


ปัญหาและความท้าทาย

1. การจัดกิจกรรมทาสีจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ที่จะทาสี เช่นการทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่ต้องทาสีก่อนเริ่มกิจกรรม

2. ต้องมีการเก็บข้อมูลความต้องการ รูปแบบการใช้งานเพื่อให้เหมาะสมกิจกรรมของแต่ละสถานที่ ดังนั้นต้องมีการวางแผนเตรียมงานในแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการ และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานของแต่ละสถานที่

3. ต้องมีการวางแผนรูปแบบภาพวาดกับนักวาดภาพอาสาสมัครก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อให้เกิดรูปแบบภาพวาดที่ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับแต่ละสถานที่

4. เนื่องจากเป็นกิจกรรมทาสี ระหว่างดำเนินการกิจกรรมต้องวางแผนเรื่องการรักษาความสะอาด และการทำความสะอาดของแต่ละสถานที่


แนวทางการดำเนินงานในอนาคต

1. จากการดำเนินการกิจกรรม Art for Health ที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก รวมถึงสถาบันเพื่อเด็กพิการต่างๆและเครือข่ายแสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากหลังจากประชาสัมพันธ์โครงการออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการ Art for Health ประสบผลสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดี สามารถต่อยอดและพัฒนาโครงการไปได้ในหลายพื้นที่ที่ยังต้องการความช่วยเหลือในอนาคต

2. ในระหว่างการ Research ความต้องการของแต่ละสถานที่ที่จัดกิจกรรมทาสี ทำให้ทราบว่าแต่ละสถานที่ยังต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการส่งเสริมกิจกรรมศิลปะบำบัด ซึ่งสามารถเป็นแนวทางให้การต่อยอดโครงการต่อไปในอนาคต

ภาพประกอบการดำเนินการโครงการ

1. การรับบริจาคสีและอุปกรณ์ทาสี


2. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ



3. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่สถาบันราชานุกูล



4. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่บ้านคามิลเลียน เพื่อเด็กพิการ 


ความประทับใจจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ Art for Health

1. ความคิดเห็นจากภาคี (สถาบันราชานุกูล)

เป็นโครงการที่ดีมาก ที่มีอาสาสมัครแต่ละสายอาชีพที่มีใจทาง Art มาสร้างภาพวาดเพิ่มสีสัน สร้างบรรยากาศ ในการเรียนรู้สำหรับผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมาเป็น สถาบัน / หน่วยงานเดียว และคิดว่าควรไปสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา ในส่วนของภาครัฐ เพราะสถานที่จะเก่า ถูกสร้างมานานแล้วไม่มีงบประมาณมาปรับปรุง ถ้ามีการแต่งเติมด้วยภาพ จะช่วยให้มีสีสัน สร้างบรรยากาศแก่ผู้เรียน /ผู้บกพร่องฯ  

2. ความคิดเห็นจากภาคี (สถาบันสิรินธร)

เป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ทั้งต่อตัว ผู้ให้และผู้รับ เเละเป็นโครงการที่เห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตของผู้พิการ ทำให้สถานที่ที่ดูน่ากลัวสำหรับเด็ก ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เด็กมีความกลัวน้อยลงเเละสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานของบุคลากรในสถาบันอีกด้วย และควรจะจัดโครงการนี้ต่อไปค่ะ โดยอาจกระจายไปสู่ตามต่างจังหวัด รพสต ศูนย์เด็กเล็ก เป็นต้น หากมีโอกาสอยากให้เพิ่มโครงการสอนศิลปะฟรีให้กับเด็กพิการค่ะ เพราะมีคนสอบถามและสนใจเป็นจำนวนมากค่ะ 

3. ความคิดเห็นจากอาสาสมัคร (1)

ชอบมากค่ะ รู้สึกเป็นงานที่ทำได้จริง สามารถช่วยกันทำให้เสร็จได้ภายในเวลาที่เหมาะสม และสามารถต่อยอดเป็นการใช้ศิลปะทำสื่อการสอนให้กับเด็กได้ค่ะ ทั้งเด็กพิการ/เด็กตาม รร. ปกติ เนื่องจากปัจจุบันเด็กสมัยใหม่อยู่กับเทคโนโลยีที่มากไป เขาจะขาดทักษะหลายๆอย่างที่จำเป็นเมื่อเขาต้องโตขึ้น เราอาจจะต้องมีสื่อที่เป็น manual หน่อย รวมถึงให้ความรู้กับจิตอาสาเรื่องการสอนเด็กให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมให้เป็นสุขได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อให้จิตอาสาเข้าใจ และเป็นแรงบันดาลใจไปบอกต่อเพื่อนรอบข้าง หรือไปสร้างความดีต่อไป  

4. ความคิดเห็นจากอาสาสมัคร (2)

รู้สึกเป็นโครงการที่ดี และได้ทำให้สังคม สนุก มีความสุขที่ได้ครีเอทและได้ทำประโยชน์ด้วย feel free เวลาทำกิจกรรม ทีมงานเป็นกันเอง ชอบที่ได้นำศิลปะมาเป็นประโยชน์เพื่อสังคม ถ้ามีโอกาสจะเข้าร่วมอีก และลังจากที่ได้ร่วมโครงการแล้วคิดว่า ที่จริงอาจจะมีอีกหลายสถานที่ ที่เมื่อปรับปรุง หรือยังมีความต้องการในส่วนลักษณะแบบนี้อีก แต่ยังขาดตัวกลาง ถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์ให้เป็นศูนย์กลางแล้ว น่าจะมีคนให้ความสนใจ และอยากร่วมทั้งสองฝ่าย ทั้งอาสาสมัคร และสถานที่ต่างๆ น่าจะเป็นประโยชน์มากๆค่ะ 


อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

นอกจากจะให้เด็กพิการได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย เพื่อพัฒนาการที่ดีขึ้น ฝึกการช่วยเหลือตัวเองเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างอิสระแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควร ให้ความสำคัญก็คือการเยียวยาทางด้านจิตใจ เพื่อให้เด็กพิการเหล่านี้ได้สัมผัสด้านสุนทรีย์ของชีวิต ซึ่งจากการศึกษาพบว่า "ศิลปะ" เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กมีความสุข และมีสมาธิมากขึ้น การใช้ศิลปะบำบัดจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเยียวยาอารมณ์ จิตใจของเด็กๆ ได้ เพื่อให้เด็กพิการได้รับการฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย  อารมณ์  สังคม  และสติปัญญา

ประโยชน์ของศิลปะบำบัด

ศิลปะบำบัด มุ่งเน้นให้เกิดความสมดุลของชีวิต ช่วยบรรเทาปัญหา ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ขจัดความขัดแย้งภายในส่วนลึกของจิตใจ ช่วยให้มีระดับอารมณ์คงที่ดีขึ้น ไม่ฉุนเฉียว หรือโศกเศร้ามากนัก สามารถจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นต่างๆ เข้ามากระทบ และเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินชีวิตในด้านต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ สังคม และสุนทรียศาสตร์ ไปพร้อมๆ กัน

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดโครงการ " Art for Health " ที่อยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมบริจาคสีและอุปกรณ์สำหรับทาสีให้บ้านเด็กพิการ หรือร่วมสมทบทุนซื้อสีและอุปกรณ์เพิ่มเติม รวมถึงร่วมเป็นอาสาสมัครทาสีให้บ้านเด็กพิการ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ เสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินชีวิต สร้างสีสัน และรอยยิ้มให้กับน้องๆ

ประโยชน์ของโครงการ :

  1. สร้างทัศนียภาพ และบรรยากาศที่น่าอยู่ให้กับบ้านเด็กพิการ
  2. เด็กๆได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพจิตที่ดี และเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ
  3. ภาพศิลปะบางส่วนจะเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมฝึกพัฒนาการของเด็กๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
  4. ภาคประชาสังคมได้เรียนรู้ ตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นจิตอาสา และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมร่วมกันจากทุกภาคส่วน

กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ :

  • 10/11/59 เริ่มประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Art for Health” เปิดรับบริจาคและรับอาสาสมัคร
  • 23/11/59 ปิดรับบริจาคเงินสมบททุน สี และอุปกรณ์ และปิดรับอาสาสมัคร
  • 19-27/11/59 เริ่มกิจกรรม “Art for Health”

Time

ทาสีให้บ้านเด็กพิการ

  • วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ (อาสาสมัครจำนวน 30 คน / วัน)
  • วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559 สถาบันราชานุกูล (อาสาสมัครจำนวน 30 คน / วัน)
  • วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559 บ้านคามิลเลียน (อาสาสมัครจำนวน 30 คน / วัน)

Talent

- นักออกแบบอาสาสมัคร   

- สีและอุปกรณ์สำหรับทาสี

  1. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีขาว (1GL) 9 ถัง
  2. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีแดง (1GL) 6 ถัง
  3. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีน้ำเงิน (1GL) 6 ถัง
  4. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเหลือง (1GL) 6 ถัง
  5. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเขียว (1GL) 6 ถัง
  6. สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีดำ (1GL) 3 ถัง
  7. สีรองพื้น สำหรับทาภายนอก (1GL) 12 ถัง
  8. แปรงสำหรับทาสี เบอร์ 1 2 และ4 นิ้ว / พู่กันหัวแบน เบอร์ 12 16 20 และ 24 / พู่กันหัวกลมทาสี เบอร์ 8 และ12
  9. อุปกรณ์สำหรับทาสีอื่นๆ เช่น แปรงลูกกลิ้ง ถังพลาสติกขนาดเล็ก ผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดจมูก และเทปกาวย่น เป็นต้น

Treasure

งบประมาณสนับสนุนโครงการเพื่อจัดซื้อสีและอุปกรณ์เพิ่มเติม

จำนวน 30,000 บาท

ที่อยู่สำหรับรับของบริจาค

โครงการปลุกพลังเปลี่ยนไทย ห้อง 409

ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

939 ถ.พระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน 10330

ผู้ประสานงาน : เชษ

เบอร์ติดต่อ : 0899496398

สมาชิกภายในทีม :

ผู้ประสานงาน : วันวิสาข์ ศรีพินิจ

เบอร์ติดต่อ : 061-994-1426

ภาคี :

สร้างศิลปะเสริมพัฒนาการ ให้บ้านเด็กพิการกับ Art for health

19 พฤษภาคม 2017

โครงการ Art for Health ได้จัดกิจกรรมเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา โดยมีอาสาสมัครมาเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 198 คน มีผู้ใจบุญบริจาคสีรวมถึงอุปกรณ์สำหรับทาสีให้บ้านเด็กพิการและร่วมสมทบทุนซื้อสีและอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรม จำนวน 20,154 บาทถ้วน และทางโครงการได้จัดกิจกรรมทาสีให้บ้านเด็กพิการ ประกอบด้วย 1)สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2559 2)สถาบันราชานุกูล วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559 และ 3)บ้านคามิลเลียน เพื่อเด็กพิการ วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559

สรุปผลการดำเนินกิจกรรม เป็น 3T ดังนี้

Time: 1. อาสาสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 292 คน

          2. อาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 198 คน

Talent: นักวาดภาพอาสาสมัคร จำนวน 29 คน

Treasure: 1. รายการสีและอุปกรณ์สำหรับทาสี ประกอบด้วย

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีขาว (3.5 ลิตร) จำนวน 9 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีแดง (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีน้ำเงิน (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเหลือง (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีเขียว (3.5 ลิตร) จำนวน 6 ถัง

                    -สีอะคริลิค สำหรับทาภายนอก สีดำ (3.5 ลิตร) จำนวน 3 ถัง

                    -สีรองพื้น สำหรับทาภายนอก (3.5 ลิตร) จำนวน 12 ถัง

                    -แปรงสำหรับทาสี เบอร์ 1 2 และ4 นิ้ว จำนวน 1 ชุด

                    -พู่กันหัวกลมทาสี เบอร์ 8 และ12 นิ้ว จำนวน 2 ชุด

                 2. ผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนซื้อสีและอุปกรณ์สำหรับทาสี จำนวน 20,154 บาทถ้วน


ประโยชน์ที่ได้รับ 
1. สร้างทัศนียภาพ และบรรยากาศที่น่าอยู่ให้กับบ้านเด็กพิการ

2. เด็กพิการได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพจิตที่ดี และเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ

3. ภาพศิลปะบางส่วนจะเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมฝึกพัฒนาการของเด็กๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม

4. ภาคประชาสังคมได้เรียนรู้ ตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นจิตอาสา และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมร่วมกันจากทุกภาคส่วน


ปัญหาและความท้าทาย

1. การจัดกิจกรรมทาสีจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ที่จะทาสี เช่นการทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่ต้องทาสีก่อนเริ่มกิจกรรม

2. ต้องมีการเก็บข้อมูลความต้องการ รูปแบบการใช้งานเพื่อให้เหมาะสมกิจกรรมของแต่ละสถานที่ ดังนั้นต้องมีการวางแผนเตรียมงานในแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการ และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานของแต่ละสถานที่

3. ต้องมีการวางแผนรูปแบบภาพวาดกับนักวาดภาพอาสาสมัครก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อให้เกิดรูปแบบภาพวาดที่ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับแต่ละสถานที่

4. เนื่องจากเป็นกิจกรรมทาสี ระหว่างดำเนินการกิจกรรมต้องวางแผนเรื่องการรักษาความสะอาด และการทำความสะอาดของแต่ละสถานที่


แนวทางการดำเนินงานในอนาคต

1. จากการดำเนินการกิจกรรม Art for Health ที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก รวมถึงสถาบันเพื่อเด็กพิการต่างๆและเครือข่ายแสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากหลังจากประชาสัมพันธ์โครงการออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการ Art for Health ประสบผลสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดี สามารถต่อยอดและพัฒนาโครงการไปได้ในหลายพื้นที่ที่ยังต้องการความช่วยเหลือในอนาคต

2. ในระหว่างการ Research ความต้องการของแต่ละสถานที่ที่จัดกิจกรรมทาสี ทำให้ทราบว่าแต่ละสถานที่ยังต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการส่งเสริมกิจกรรมศิลปะบำบัด ซึ่งสามารถเป็นแนวทางให้การต่อยอดโครงการต่อไปในอนาคต

ภาพประกอบการดำเนินการโครงการ

1. การรับบริจาคสีและอุปกรณ์ทาสี


2. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ



3. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่สถาบันราชานุกูล



4. การจัดกิจกรรมทาสี โครงการ Art for Health ที่บ้านคามิลเลียน เพื่อเด็กพิการ 


ความประทับใจจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ Art for Health

1. ความคิดเห็นจากภาคี (สถาบันราชานุกูล)

เป็นโครงการที่ดีมาก ที่มีอาสาสมัครแต่ละสายอาชีพที่มีใจทาง Art มาสร้างภาพวาดเพิ่มสีสัน สร้างบรรยากาศ ในการเรียนรู้สำหรับผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมาเป็น สถาบัน / หน่วยงานเดียว และคิดว่าควรไปสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา ในส่วนของภาครัฐ เพราะสถานที่จะเก่า ถูกสร้างมานานแล้วไม่มีงบประมาณมาปรับปรุง ถ้ามีการแต่งเติมด้วยภาพ จะช่วยให้มีสีสัน สร้างบรรยากาศแก่ผู้เรียน /ผู้บกพร่องฯ  

2. ความคิดเห็นจากภาคี (สถาบันสิรินธร)

เป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ทั้งต่อตัว ผู้ให้และผู้รับ เเละเป็นโครงการที่เห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตของผู้พิการ ทำให้สถานที่ที่ดูน่ากลัวสำหรับเด็ก ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เด็กมีความกลัวน้อยลงเเละสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานของบุคลากรในสถาบันอีกด้วย และควรจะจัดโครงการนี้ต่อไปค่ะ โดยอาจกระจายไปสู่ตามต่างจังหวัด รพสต ศูนย์เด็กเล็ก เป็นต้น หากมีโอกาสอยากให้เพิ่มโครงการสอนศิลปะฟรีให้กับเด็กพิการค่ะ เพราะมีคนสอบถามและสนใจเป็นจำนวนมากค่ะ 

3. ความคิดเห็นจากอาสาสมัคร (1)

ชอบมากค่ะ รู้สึกเป็นงานที่ทำได้จริง สามารถช่วยกันทำให้เสร็จได้ภายในเวลาที่เหมาะสม และสามารถต่อยอดเป็นการใช้ศิลปะทำสื่อการสอนให้กับเด็กได้ค่ะ ทั้งเด็กพิการ/เด็กตาม รร. ปกติ เนื่องจากปัจจุบันเด็กสมัยใหม่อยู่กับเทคโนโลยีที่มากไป เขาจะขาดทักษะหลายๆอย่างที่จำเป็นเมื่อเขาต้องโตขึ้น เราอาจจะต้องมีสื่อที่เป็น manual หน่อย รวมถึงให้ความรู้กับจิตอาสาเรื่องการสอนเด็กให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมให้เป็นสุขได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อให้จิตอาสาเข้าใจ และเป็นแรงบันดาลใจไปบอกต่อเพื่อนรอบข้าง หรือไปสร้างความดีต่อไป  

4. ความคิดเห็นจากอาสาสมัคร (2)

รู้สึกเป็นโครงการที่ดี และได้ทำให้สังคม สนุก มีความสุขที่ได้ครีเอทและได้ทำประโยชน์ด้วย feel free เวลาทำกิจกรรม ทีมงานเป็นกันเอง ชอบที่ได้นำศิลปะมาเป็นประโยชน์เพื่อสังคม ถ้ามีโอกาสจะเข้าร่วมอีก และลังจากที่ได้ร่วมโครงการแล้วคิดว่า ที่จริงอาจจะมีอีกหลายสถานที่ ที่เมื่อปรับปรุง หรือยังมีความต้องการในส่วนลักษณะแบบนี้อีก แต่ยังขาดตัวกลาง ถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์ให้เป็นศูนย์กลางแล้ว น่าจะมีคนให้ความสนใจ และอยากร่วมทั้งสองฝ่าย ทั้งอาสาสมัคร และสถานที่ต่างๆ น่าจะเป็นประโยชน์มากๆค่ะ 


ไม่มีข้อมูล