ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต : พาเด็กพิการ 30 ชีวิต พิชิตยอดเขา
"ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4" จะเปลี่ยนเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว 30 ชีวิตให้มั่นใจขึ้น กล้าขึ้น พยายามมากขึ้น ผ่านการพิชิตยอดเขาที่ถือเป็นเรื่องยากแม้สำหรับคนปกติ นอกจากจะทำให้เด็กพิการกล้าพัฒนาตัวเองเพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้ด้วยตนเอง สามารถลดการพึ่งพางบประมาณการดูแลจากคนในประเทศ ยังช่วยเปลี่ยนมุมมองของอาสาสมัครผู้ช่วยเหลือว่าแรงกายบวกความตั้งใจที่จะช่วยของพวกเขาสามารถเปลี่ยนชีวิตน้อยๆของน้องๆได้ จะทำให้คนในสังคมสนใจหันมาทำงาน "ให้" สังคมมากขึ้นอีกด้วย ร่วมสร้างสังคมที่มีแต่การให้ได้กับเรา "ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4"
ระยะเวลาโครงการ 8 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ กาญจนบุรี
ยอดบริจาคขณะนี้
57,619 บาทเป้าหมาย
37,708 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ความคืบหน้าโครงการปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต : พาเด็กพิการ 30 ชีวิต พิชิตยอดเขา
ชื่อโครงการ ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิตครั้งที่ 4
เจ้าของโครงการ มูลนิธิซาย มูฟเม้นท์
โครงการปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิตครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26-27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ณ เนินช้างศึก หมู่บ้านอีต่อง ต.อีต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยโครงการมีเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 คนพร้อมครอบครัว อาสาสมัครพาเด็กพิการพิชิตยอดเขาจำนวน 90 คน อาสาสมัครทีมงานจำนวน 20 คน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทั้งหมด 200 คน สามารถพิชิตเนินช้างศึกได้สำเร็จทุกคน โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ส่งผลให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวมีการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทางด้านร่างกายของตนเองโดยผ่านการฝึกซ้อมจากการปีนเขาสูง และสามารถสร้างแรงบันดาลใจในตัวเองผ่านการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม รวมถึงทำให้คนในสังคมเกิดจิตสำนึกในการให้ความช่วยเหลือเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ผ่านการเป็นอาสาสมัครพาน้องพิการขึ้นสู่ยอดเขา หรือการสนับสนุนด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม
ความประทับใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม
จากตอนแรกที่เข้าร่วมโครงการเพราะอยากช่วยน้องๆ สร้างกำลังใจ สร้างความสุข แต่สุดท้ายมันกลับกัน คนที่ได้จริงๆ กลับย้อนมาที่ตัวเราเอง
หนทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง ก้อนหิน ดินทรายที่อาจจะทำให้น้องล้ม แต่น้องเลือกที่จะเชื่อมั่น..เชื่อมั่นในพี่อาสา เชื่อมั่นในครอบครัว เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วสิ่งนี้แหละมันเชื่อมโยงพวกเราให้ก้าวไปพร้อมกัน ทีละก้าว..ทีละก้าว
ถึงน้องจะเลือกสิ่งที่เขาเป็นไม่ได้ แต่เขาเลือกแล้วที่จะสุดยอดจากสิ่งที่มี ในอนาคตน้องๆ ไม่ใช่แค่สามารถทำอะไรได้ แต่เขาสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันสร้างสังคมแห่งการให้ขึ้นมา จนตกผลึกกลายเป็น..พลังก้อนเล็กๆ...จากกลุ่มคนเล็กๆ แล้วเมื่อเวลาผ่านไปพลังก้อนนี้..จะขยายใหญ่ขึ้นๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในการขัดเกลาสังคมให้ดีขึ้น...มากกว่าที่เป็น
นางสาววิชญาดา สุขเกษม (แยม)
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ผมได้ขออาสาแบกน้องโฟกัส (น้องท่าทางกินเก่ง อิอิ) พิชิตเนินช้างศึก ผมได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดเวลา เพราะพี่ๆ ในกลุ่มค่อยให้กำลังใจและรอยยิ้มอยู่ น้องมีความตื่นเต้นมากที่จะได้พิชิตยอดเขา พอเริ่มเดินผมมีร่างกายปกติยังเหนื่อยเลย แต่คิดมุมกลับกันน้องๆ ในโครงการนี้ทุกคนต้องใช่ความพยายามแรงใจและแรงกายอย่างมากกว่าเราหลายร้อยเท่าในการเดินขึ้นพิชิตยอดเขา แต่น้องทุกคนพร้อมจะไปครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหนื่อยทั้งๆ ที่รู้ว่าลำบากแต่เขาไม่มีความกลัวในหัวใจเลย พอถึงยอดเขาเป็นวิวที่สวยมากเห็นเขาช้างเผือกอย่างชัดเจนผมเห็นน้องๆ ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุขและภูมิใจ ได้เห็นภาพ ได้สัมผัสอากาศ ได้สัมผัสทิวทัศน์ สัมผัสกลิ่นอายทะเลหมอกที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานแต่สามารถทำให้น้องๆ มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตการมีที่ยืนในสังคมและหน้าที่ของเราคือการยืนอยู่ข้างๆ เขาคอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือในยามที่เขาท้อแท้ซึ่งมันมีค่ามากสำหรับน้องๆ เหล่านี้ครับ ขอขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้จากมูลนิธิ #Zymovement #CTCAL 4 #หนูจะแข็งแรงพ่อไม่ต้องห่วง # ขอขอบคุณพี่ๆ โครงการ และจิตอาสาทุกคน พี่ๆ ในกลุ่มทุกคน น้องโฟกัส และน้องโชกุน ที่ได้สร้างโครงการดีๆ แบบนี้และอยากให้มีโครงการแบบนี้ไปตลอดเพราะยังมีเด็กๆ อีกมากที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้
นายธนกร ประชุมพันธุ์ (โจ๋)
ก่อนที่จะเริ่มปีนเขาก็แอบมีกังวลว่าด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ได้สมบูรณ์พร้อมทั้งตัวของพ่อและน้องพรีมว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ แต่เมื่อได้เห็นเด็กๆ อีก 29 ครอบครัวรวมถึงตัวน้องพรีมแล้วทำให้รับรู้ได้ว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นเกินกว่าร่างกายของเขา นั่นเป็นกำลังให้ผมก้าวผ่านความกังวลนั่นได้ ประกอบกับแรงกายแรงใจความช่วยเหลือเกื้อกูลจากทีมอาสาทุกท่านที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจกัน ทั้งแบกขึ้นหลังสลับกับการเดินเองด้วยกำลังขาของน้องพรีมเองทำให้เค้าเห็นว่าร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรค... การได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของน้องพรีมที่จะทำให้เขาอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ.. ต้องขอขอบคุณกิจกรรมCTCAL4 ที่ทำให้น้องพรีมได้ทำในสิ่งที่คงไม่มีโอกาสที่จะทำด้วยกำลังของพ่อเพียงคนเดียวได้ ขอบคุณคุณน้ำตาลที่ได้เลือกน้องพรีมเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ขอบคุณพี่อ๊อด คุณแบงค์ คุณเก่ง คุณกิ๊ฟท์ คุณน้ำผึ้ง คุณร่า ที่คอยดูแลตลอดระยะเวลาสองวันนี้ ขอบคุณครอบครัวน้องฝ้ายC21 ที่เป็นกำลังใจให้กันตลอดจนสามารถพิชิตเนินช้างศึกได้ ขอขอบคุณคุณออยและพี่คนขับVAN15 ที่เดินทางทั้งไปและกลับอย่างปลอดภัย ขอขอบคุณจากใจครับ…
นายบุญวิวัฒน์ จันทร์อินทร์ ครอบครัวน้องพรีม
ขอบคุณสำหรับกิจกรรมปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4 และกำลังใจดีๆ จากน้องซานิและเด็กพิเศษทุกๆ คนที่ทำให้คนที่มีร่างกายสมบูรณ์อย่างพี่เติมเต็มส่วนที่ขาดคือ "หัวใจที่แข็งแกร่ง" น้องทำให้พี่ได้รู้ว่าน้องๆ เพียงแค่มีระบบการทำงานของร่างกายที่บกพร่อง แต่หัวใจของน้องสุดยอดมากๆ ทำให้ใครบางคนที่ร่างกายสมบูรณ์ยอมรับหัวจิตหัวใจของน้อง ขอบคุณครับขอบคุณจริงๆ ครับ สำหรับรอยยิ้มเหล่านั้นมันทำให้พี่มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะสำหรับการใช้ชีวิต และขอให้น้องซานิเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กพิเศษอีกหลายๆ คน จากการที่ปีที่แล้วน้องเดินได้ไม่เก่งแบบปีนี้ หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดกับเด็กพิเศษอีกหลายๆ คน ปาฏิหาริย์ย่อมเกิดจากการพยายามอย่างเต็มที่แล้วเสมอ วันนี้พี่ได้ "จิตใจที่แข็งแกร่งในร่างกายที่สมบูรณ์" กลับมาแล้ว หวังว่าน้องซานิและเด็กพิเศษทุกๆ คน ก็เช่นกัน ขอบคุณมิตรภาพจากจิตอาสา CTCAL4 ทุกๆ ท่านแล้วพบกันใหม่ครับ
นางสาวพรทิพย์ พรหมสูงวงษ์ (เจเจ)
อ่านต่อ »
พ่อแม่และน้องปอร์เช่ขอขอบคุณพี่น้ำตาลและพี่อาสาและมูลนิธิซาย มูฟเม้นท์ และลืมไม่ได้พี่อาสา C19.C20 พี่โจ้ พี่ยีนส์ พี่ปุ้ม พี่ดิน ที่ช่วยน้องปอร์เช่ไปถึงยอดเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อและคิดไม่ถึงว่าน้องจะทำได้ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของน้องและครอบครัว ขอขอบคุณที่เห็นความตั้งใจและมุ่งมั่นของพี่ๆ ที่ให้กำลังใจ ของน้องๆ ตลอดระยะทางจนถึงจุดมุ่งหมายถึงความตั้งใจไว้และขอขอบคุณพี่โจ้ และพี่ยีนส์ที่ให้น้องขี่หลังและดูแลตลอดจนวันกลับ ทางขึ้นเขาทั้งแคบทั้งสูงทั้งชันทั้งเสี่ยง แต่พี่ก็ช่วยน้องปอร์เช่จนถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและพี่ปุ้มก็ช่วยดันและจูงเดินไปถึงยอดเขาได้อย่างไม่ย่อท้อและหมดเเรงแต่น้องอยากเดินมากโดยไม่ย่อท้อไปถึงให้ได้ ในที่สุดปอร์เช่ก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อในที่สุด น้องปอร์เช่ก็ทำได้จริงๆ ถึงยอดเขา พิชิตเขา สู่จุดมุ่งหมาย โดยคำกล่าวว่า (ปอร์เช่ สุดคึก พิชิตยอดเขา) "จะไม่ลืมวันนี้เลยค่ะ ขอขอบคุณมากๆ นะคะที่ทำให้มีวันนี้"
นางสาวกนกพร เจริญสุข (แม่ขวัญ) ครอบครัวน้องปอร์เช่
ที่มา/ความสำคัญโครงการ :
ปัจจุบันมีอีกหนึ่งองค์กรในสังคมที่มีบทบทบาทในการส่งเสริมการมีโอกาสเพื่อใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมและเป็นอิสระสำหรับเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน คือมูลนิธิซาย มูฟเม้นท์ (Zy Movement Foundation) ซึ่งนอกจากจะดำเนินงานผลักดันความร่วมมือทางการแพทย์ในระดับประเทศ และนานาชาติให้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว มูลนิธิฯ ยังได้ดำเนินโครงการ ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการการเคลื่อนไหวของเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวโดยตรง และช่วยเสริมสร้างกำลังใจกับตัวเด็กและครอบครัวให้เข้มแข็ง โครงการ ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต เป็นการพาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวพร้อมครอบครัวไปพิชิตยอดเขาสูงด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัครจิตอาสา ทั้งนี้นอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย รวมถึงสร้างกำลังใจให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องให้กับคนในสังคมเกี่ยวกับการให้โอกาสผู้พิการทางการเคลื่อนไหวให้สามารถใช้ชีวิตอิสระในสังคมได้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย
ชมวีดิโอความ โหด มันส์ ฮา ปนน้ำตาแห่งความสุขได้ที่
ประโยชน์ของโครงการ :
ประโยขน์ของ "ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4"
1. จะเปลี่ยนเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว 30 ชีวิตให้มั่นใจขึ้น กล้าขึ้น พยายามมากขึ้น ผ่านการพิชิตยอดเขาที่ถือเป็นเรื่องยากแม้สำหรับคนปกติ นอกจากจะทำให้เด็กพิการกล้าพัฒนาตัวเองเพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้ด้วยตนเอง สามารถลดการพึ่งพางบประมาณการดูแลจากคนในประเทศ
2. เปลี่ยนมุมมองของอาสาสมัครผู้ช่วยเหลือว่าแรงกายบวกความตั้งใจที่จะช่วยของพวกเขาสามารถเปลี่ยนชีวิตน้อยๆของน้องๆได้ จะทำให้คนในสังคมสนใจหันมาทำงาน "ให้" สังคมมากขึ้นอีกด้วย ร่วมสร้างสังคมที่มีแต่การให้ได้กับเรา "ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4"
กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ :
ระยะเวลาดำเนินการ
ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 27 พฤศจิกายน 2559
สมาชิกภายในทีม :
จดหมายขอบคุณผู้บริจาค
ความคืบหน้าโครงการปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต : พาเด็กพิการ 30 ชีวิต พิชิตยอดเขา
ชื่อโครงการ ปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิตครั้งที่ 4
เจ้าของโครงการ มูลนิธิซาย มูฟเม้นท์
โครงการปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิตครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26-27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ณ เนินช้างศึก หมู่บ้านอีต่อง ต.อีต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยโครงการมีเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 คนพร้อมครอบครัว อาสาสมัครพาเด็กพิการพิชิตยอดเขาจำนวน 90 คน อาสาสมัครทีมงานจำนวน 20 คน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทั้งหมด 200 คน สามารถพิชิตเนินช้างศึกได้สำเร็จทุกคน โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ส่งผลให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวมีการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทางด้านร่างกายของตนเองโดยผ่านการฝึกซ้อมจากการปีนเขาสูง และสามารถสร้างแรงบันดาลใจในตัวเองผ่านการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม รวมถึงทำให้คนในสังคมเกิดจิตสำนึกในการให้ความช่วยเหลือเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ผ่านการเป็นอาสาสมัครพาน้องพิการขึ้นสู่ยอดเขา หรือการสนับสนุนด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม
ความประทับใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม
จากตอนแรกที่เข้าร่วมโครงการเพราะอยากช่วยน้องๆ สร้างกำลังใจ สร้างความสุข แต่สุดท้ายมันกลับกัน คนที่ได้จริงๆ กลับย้อนมาที่ตัวเราเอง
หนทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง ก้อนหิน ดินทรายที่อาจจะทำให้น้องล้ม แต่น้องเลือกที่จะเชื่อมั่น..เชื่อมั่นในพี่อาสา เชื่อมั่นในครอบครัว เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วสิ่งนี้แหละมันเชื่อมโยงพวกเราให้ก้าวไปพร้อมกัน ทีละก้าว..ทีละก้าว
ถึงน้องจะเลือกสิ่งที่เขาเป็นไม่ได้ แต่เขาเลือกแล้วที่จะสุดยอดจากสิ่งที่มี ในอนาคตน้องๆ ไม่ใช่แค่สามารถทำอะไรได้ แต่เขาสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันสร้างสังคมแห่งการให้ขึ้นมา จนตกผลึกกลายเป็น..พลังก้อนเล็กๆ...จากกลุ่มคนเล็กๆ แล้วเมื่อเวลาผ่านไปพลังก้อนนี้..จะขยายใหญ่ขึ้นๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในการขัดเกลาสังคมให้ดีขึ้น...มากกว่าที่เป็น
นางสาววิชญาดา สุขเกษม (แยม)
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ผมได้ขออาสาแบกน้องโฟกัส (น้องท่าทางกินเก่ง อิอิ) พิชิตเนินช้างศึก ผมได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดเวลา เพราะพี่ๆ ในกลุ่มค่อยให้กำลังใจและรอยยิ้มอยู่ น้องมีความตื่นเต้นมากที่จะได้พิชิตยอดเขา พอเริ่มเดินผมมีร่างกายปกติยังเหนื่อยเลย แต่คิดมุมกลับกันน้องๆ ในโครงการนี้ทุกคนต้องใช่ความพยายามแรงใจและแรงกายอย่างมากกว่าเราหลายร้อยเท่าในการเดินขึ้นพิชิตยอดเขา แต่น้องทุกคนพร้อมจะไปครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหนื่อยทั้งๆ ที่รู้ว่าลำบากแต่เขาไม่มีความกลัวในหัวใจเลย พอถึงยอดเขาเป็นวิวที่สวยมากเห็นเขาช้างเผือกอย่างชัดเจนผมเห็นน้องๆ ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุขและภูมิใจ ได้เห็นภาพ ได้สัมผัสอากาศ ได้สัมผัสทิวทัศน์ สัมผัสกลิ่นอายทะเลหมอกที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานแต่สามารถทำให้น้องๆ มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตการมีที่ยืนในสังคมและหน้าที่ของเราคือการยืนอยู่ข้างๆ เขาคอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือในยามที่เขาท้อแท้ซึ่งมันมีค่ามากสำหรับน้องๆ เหล่านี้ครับ ขอขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้จากมูลนิธิ #Zymovement #CTCAL 4 #หนูจะแข็งแรงพ่อไม่ต้องห่วง # ขอขอบคุณพี่ๆ โครงการ และจิตอาสาทุกคน พี่ๆ ในกลุ่มทุกคน น้องโฟกัส และน้องโชกุน ที่ได้สร้างโครงการดีๆ แบบนี้และอยากให้มีโครงการแบบนี้ไปตลอดเพราะยังมีเด็กๆ อีกมากที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้
นายธนกร ประชุมพันธุ์ (โจ๋)
ก่อนที่จะเริ่มปีนเขาก็แอบมีกังวลว่าด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ได้สมบูรณ์พร้อมทั้งตัวของพ่อและน้องพรีมว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ แต่เมื่อได้เห็นเด็กๆ อีก 29 ครอบครัวรวมถึงตัวน้องพรีมแล้วทำให้รับรู้ได้ว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นเกินกว่าร่างกายของเขา นั่นเป็นกำลังให้ผมก้าวผ่านความกังวลนั่นได้ ประกอบกับแรงกายแรงใจความช่วยเหลือเกื้อกูลจากทีมอาสาทุกท่านที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจกัน ทั้งแบกขึ้นหลังสลับกับการเดินเองด้วยกำลังขาของน้องพรีมเองทำให้เค้าเห็นว่าร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรค... การได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของน้องพรีมที่จะทำให้เขาอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ.. ต้องขอขอบคุณกิจกรรมCTCAL4 ที่ทำให้น้องพรีมได้ทำในสิ่งที่คงไม่มีโอกาสที่จะทำด้วยกำลังของพ่อเพียงคนเดียวได้ ขอบคุณคุณน้ำตาลที่ได้เลือกน้องพรีมเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ขอบคุณพี่อ๊อด คุณแบงค์ คุณเก่ง คุณกิ๊ฟท์ คุณน้ำผึ้ง คุณร่า ที่คอยดูแลตลอดระยะเวลาสองวันนี้ ขอบคุณครอบครัวน้องฝ้ายC21 ที่เป็นกำลังใจให้กันตลอดจนสามารถพิชิตเนินช้างศึกได้ ขอขอบคุณคุณออยและพี่คนขับVAN15 ที่เดินทางทั้งไปและกลับอย่างปลอดภัย ขอขอบคุณจากใจครับ…
นายบุญวิวัฒน์ จันทร์อินทร์ ครอบครัวน้องพรีม
ขอบคุณสำหรับกิจกรรมปีนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 4 และกำลังใจดีๆ จากน้องซานิและเด็กพิเศษทุกๆ คนที่ทำให้คนที่มีร่างกายสมบูรณ์อย่างพี่เติมเต็มส่วนที่ขาดคือ "หัวใจที่แข็งแกร่ง" น้องทำให้พี่ได้รู้ว่าน้องๆ เพียงแค่มีระบบการทำงานของร่างกายที่บกพร่อง แต่หัวใจของน้องสุดยอดมากๆ ทำให้ใครบางคนที่ร่างกายสมบูรณ์ยอมรับหัวจิตหัวใจของน้อง ขอบคุณครับขอบคุณจริงๆ ครับ สำหรับรอยยิ้มเหล่านั้นมันทำให้พี่มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะสำหรับการใช้ชีวิต และขอให้น้องซานิเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กพิเศษอีกหลายๆ คน จากการที่ปีที่แล้วน้องเดินได้ไม่เก่งแบบปีนี้ หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดกับเด็กพิเศษอีกหลายๆ คน ปาฏิหาริย์ย่อมเกิดจากการพยายามอย่างเต็มที่แล้วเสมอ วันนี้พี่ได้ "จิตใจที่แข็งแกร่งในร่างกายที่สมบูรณ์" กลับมาแล้ว หวังว่าน้องซานิและเด็กพิเศษทุกๆ คน ก็เช่นกัน ขอบคุณมิตรภาพจากจิตอาสา CTCAL4 ทุกๆ ท่านแล้วพบกันใหม่ครับ
นางสาวพรทิพย์ พรหมสูงวงษ์ (เจเจ)
พ่อแม่และน้องปอร์เช่ขอขอบคุณพี่น้ำตาลและพี่อาสาและมูลนิธิซาย มูฟเม้นท์ และลืมไม่ได้พี่อาสา C19.C20 พี่โจ้ พี่ยีนส์ พี่ปุ้ม พี่ดิน ที่ช่วยน้องปอร์เช่ไปถึงยอดเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อและคิดไม่ถึงว่าน้องจะทำได้ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของน้องและครอบครัว ขอขอบคุณที่เห็นความตั้งใจและมุ่งมั่นของพี่ๆ ที่ให้กำลังใจ ของน้องๆ ตลอดระยะทางจนถึงจุดมุ่งหมายถึงความตั้งใจไว้และขอขอบคุณพี่โจ้ และพี่ยีนส์ที่ให้น้องขี่หลังและดูแลตลอดจนวันกลับ ทางขึ้นเขาทั้งแคบทั้งสูงทั้งชันทั้งเสี่ยง แต่พี่ก็ช่วยน้องปอร์เช่จนถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและพี่ปุ้มก็ช่วยดันและจูงเดินไปถึงยอดเขาได้อย่างไม่ย่อท้อและหมดเเรงแต่น้องอยากเดินมากโดยไม่ย่อท้อไปถึงให้ได้ ในที่สุดปอร์เช่ก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อในที่สุด น้องปอร์เช่ก็ทำได้จริงๆ ถึงยอดเขา พิชิตเขา สู่จุดมุ่งหมาย โดยคำกล่าวว่า (ปอร์เช่ สุดคึก พิชิตยอดเขา) "จะไม่ลืมวันนี้เลยค่ะ ขอขอบคุณมากๆ นะคะที่ทำให้มีวันนี้"
นางสาวกนกพร เจริญสุข (แม่ขวัญ) ครอบครัวน้องปอร์เช่
แผนการใช้เงิน
รายการ | ราคาต่อหน่วย | จำนวน | ราคารวม (บาท) |
---|---|---|---|
1.รถตู้ (2คืน 1วัน) - คันละ 10 คน | 6500 | 3 | 19,500 |
2.ค่าเข้าอุทยาน | 40 | 30 | 1,200 |
3.อาหารเช้า+เที่ยวระหว่างเดินทาง 26 Nov 2016 | 80 | 30 | 2,400 |
4.ค่าที่พัก | 150 | 30 | 4,500 |
5.อาหารเย็น 26 Nov 2016 | 60 | 30 | 1,800 |
6.อาหารเช้า 27 Nov 2016 | 50 | 30 | 1,500 |
7.นํ้าดื่มระหว่างปีนเขา | 8 | 60 | 480 |
8.ประกันชีวิตกลุ่ม | 20 | 30 | 600 |
9.เจ้าหน้าที่นำทาง | 200 | 2 | 400 |
10.อุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยแบกเด็กพิการขึ้นเขาอย่างปลอดภัย | 300 | 30 | 900 |
11.อุปกรณ์กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กพิการ | 1,000 | 1 | 1,000 |
12.ค่าธรรมเนียมเทใจดอทคอม 10% | 3,428 | ||
รวมค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วนของเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว ในโครงการ จำนวน 30 คน | 37,708 |