ปล่อยหอยชักตีนลงแปลงอนุรักษ์ เกาะศรีบอยา จ.กระบี่
1 บาทเพาะพันธ์หอยชักตีนได้ 1 ตัวร่วมอนุรักษ์หอยชักตีน สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองกระบี่ให้ขยายพันธ์ุได้
ระยะเวลาโครงการ 1 ปี พื้นที่ดำเนินโครงการ กระบี่
ยอดบริจาคขณะนี้
10,107 บาทเป้าหมาย
10,107 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ปล่อยลูกพันธุ์หอยชักตีนลงแปลงอนุรักษ์
มูลนิธิเอ็นไลฟ นำเงินจากการระดมทุนผ่านเว็บไซต์เทใจ เป็นจำนวนเงิน 10,107 บาท และได้มีการระดมทุนจากหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ สาขาจังหวัดกระบี่ และดำเนินการเพาะพันธุ์ลูกหอยชักตีน จำนวน 70,000 ตัว และได้ทะยอยนำไปปล่อยในแปลงอนุรักษ์หอยชักตีนของตำบลเกาะศรีบอยา กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากชุมชนบ้านหลังเกาะ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งการอนุรักษ์หอยชักตีนมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ปล่อยพันธุ์ลูกหอยชักตีน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561
ภาพประกอบ
ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันปล่อยพันธุ์ลูกหอยชักตีน
ปล่อยลูกหอยในพื้นที่แปลงอนุรักษ์
ลูกหอยชักตีนขนาด 1-2 เซนติเมตร ร่างกายแข็งแรงพร้อมใช้ชีวิตในธรรมชาติ
มูลนิธิเอ็นไลฟ มีจุดประสงค์ในการดำเนินงาน ดังนี้
- รณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็ก (ขนาดต่ำกว่า 6 เซนติเมตร) ขึ้นมาบริโภค เนื่องจากหอยชักตีนจะเริ่มวางไข่แพ่รพันธุ์เมื่อมีขนาดตั้งแต่ 5 เซนติเมตร
- จัดทำสื่อในการรณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็กขึ้นมาบริโภค ชุมชนไม่เก็บ พ่อค้าคนกลางไม่ซื้อ ในตลาดไม่มีขาย ภัตตาคารร้านอาหารไม่เอามาจำหน่าย ผู้บริโภคปฏิเสธการบริโภค
- เพาะพันธุ์ลูกหอยชักตีนไปปล่อยในแหล่งธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผลผลิตหอยชักตีนให้เพียงพอต่อการบริโภค และสร้างสมดุลให้กับพื้นที่
- ได้กำหนดพื้นที่อนุรักษ์ โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลและเฝ้าระวัง
ที่มา/ความสำคัญโครงการ :
ใครที่เดินทางไปจังหวัดกระบี่ เมนูอาหารจานนิยมจะต้องมีโอกาสลิ้มรส คือ หอยชักตีนลวกจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด
ทำให้หอยชักตีนมีจำนวนน้อย และที่สำคัญหอยชักตีนขนาดโตไม่พอก็จัดเสริ์ฟอยู่ในจานอาหารแล้ว
มูลนิธิเอ็นไลฟร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กรมประมงร่วมกันรณรงค์การบริโภคหอยชักตีนในขนาดที่ไม่ต่ำกว่า 6 ซม. เนื่องจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่มีการวิจัยและพบว่า แม่พันธ์หอยชักตีนที่มีขนาดต่ำกว่า 6 เซนติเมตร จะมีโอกาสวางไข่ได้ 3-4 ครั้ง และในแต่ละครั้งก็สามารถวางไข่ได้หลายร้อยตัว ซึ่งในระยะของหอยชักตีนระยะนี้จึงเป็นระยะสำคัญต่อการเจริญเติบโต และสามารถขยายพันธุ์ได้
ดังนั้นจึงร่วมกันรณรงค์ในกลุ่มชาวประมง ที่เก็บหอยชักตีนมาขาย ไม่ให้เก็บตัวเล็ก และจัดการเพิ่มประชากรหอยชักตีนโดยการเพาะเลี้ยงและนำไปปล่อยในธรรมชาติ โดยกำหนดเขตในเขตอนุรักษ์ห้ามเก็บ เพื่อให้แม่พันธ์ได้เติบโต และขยายแพร่พันธุ์ออกไป
การบริจาค 1 บาทจะเพาะพันธ์หอยชักตีนได้ 1 ตัว
ประโยชน์ของโครงการ :
- เกิดการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรหอยชักตีนให้สอดคล้องกับกำลังผลิตในธรรมชาติ
- เพื่อเพิ่มปริมาณของหอยชักตีนซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมให้มีผลผลิตรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างพอเพียง
- สร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ หวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยกันเฝ้าระวังให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ :
- รณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็ก(ขนาดต่ำกว่า 6 ซ.ม.)ขึ้นมาบริโภค เนื่องจากหอยชักตีนจะเริ่มวางไข่แพ่รพันธุ์เมื่อมีขนาดตั้งแต่ 5 ซ.ม
- จัดทำสื่อในการรณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็กขึ้นมาบริโภค ชุมชนไม่เก็บ พ่อค้าคนกลางไม่ซื้อ ในตลาดไม่มีขาย ภัตตาคารร้านอาหารไม่เอามาจำหน่าย ผู้บริโภคปฏิเสธการบริโภค
- เพาะพันธุ์ลูกหอยชักตีนไปปล่อยในแหล่งธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผลผลิตหอยชักตีนให้เพียงพอต่อการบริโภค
- กำหนดพื้นที่อนุรักษ์กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เป็นแปลงพ่อแม่พันธุ์ โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลและเฝ้าระวัง
สมาชิกภายในทีม :
ภาคี :
ปล่อยลูกพันธุ์หอยชักตีนลงแปลงอนุรักษ์
มูลนิธิเอ็นไลฟ นำเงินจากการระดมทุนผ่านเว็บไซต์เทใจ เป็นจำนวนเงิน 10,107 บาท และได้มีการระดมทุนจากหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ สาขาจังหวัดกระบี่ และดำเนินการเพาะพันธุ์ลูกหอยชักตีน จำนวน 70,000 ตัว และได้ทะยอยนำไปปล่อยในแปลงอนุรักษ์หอยชักตีนของตำบลเกาะศรีบอยา กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากชุมชนบ้านหลังเกาะ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งการอนุรักษ์หอยชักตีนมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ปล่อยพันธุ์ลูกหอยชักตีน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561
ภาพประกอบ
ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันปล่อยพันธุ์ลูกหอยชักตีน
ปล่อยลูกหอยในพื้นที่แปลงอนุรักษ์
ลูกหอยชักตีนขนาด 1-2 เซนติเมตร ร่างกายแข็งแรงพร้อมใช้ชีวิตในธรรมชาติ
มูลนิธิเอ็นไลฟ มีจุดประสงค์ในการดำเนินงาน ดังนี้
- รณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็ก (ขนาดต่ำกว่า 6 เซนติเมตร) ขึ้นมาบริโภค เนื่องจากหอยชักตีนจะเริ่มวางไข่แพ่รพันธุ์เมื่อมีขนาดตั้งแต่ 5 เซนติเมตร
- จัดทำสื่อในการรณรงค์ไม่ให้มีการเก็บหอยชักตีนตัวเล็กขึ้นมาบริโภค ชุมชนไม่เก็บ พ่อค้าคนกลางไม่ซื้อ ในตลาดไม่มีขาย ภัตตาคารร้านอาหารไม่เอามาจำหน่าย ผู้บริโภคปฏิเสธการบริโภค
- เพาะพันธุ์ลูกหอยชักตีนไปปล่อยในแหล่งธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผลผลิตหอยชักตีนให้เพียงพอต่อการบริโภค และสร้างสมดุลให้กับพื้นที่
- ได้กำหนดพื้นที่อนุรักษ์ โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลและเฝ้าระวัง
แผนการใช้เงิน
รายการ | จำนวน | ราคารวม (บาท) |
---|---|---|
1.ค่าอนุรักษ์หอย | 50,000 ตัว | 50,000 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 50,000 |